วิจัยเผย “PM 2.5” เอี่ยวการเสียชีวิต “ชาวลอนดอน” 4,000 คน ชี้ถ้ามลพิษทางอากาศลดลง อายุคนจะยาวขึ้นอีก 20%
รายงานที่เผยแพร่โดยคณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอิมพิเรียลคอลเลจลอนดอน ของสหราชอาณาจักร เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาระบุว่า ในปี 2562 การเสียชีวิตของผู้ที่อยู่อาศัยในกรุงลอนดอนราว 4,000 ราย อาจมีสาเหตุมาจากมลพิษทางอากาศ โดยเขต (Borough) รอบนอกลอนดอนเป็นพื้นที่ที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตมากที่สุด
รายงานระบุว่า ตัวเลขนี้พิจารณาจากสาเหตุการเสียชีวิตทั้งหมด ซึ่งรวมถึงโรคระบบทางเดินหายใจ มะเร็งปอด และการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับหัวใจและหลอดเลือด
การวิจัยครั้งนี้ได้รับมอบหมายโดยกรมการขนส่งลอนดอนและสํานักบริหารมหานครลอนดอน โดยคณะนักวิจัยจากกลุ่มวิจัยสิ่งแวดล้อมจากคณะสาธารณสุขของมหาวิทยาลัยฯ พบว่า หากลอนดอนสามารถดำเนินการตามแนวทางค่าเฉลี่ยความเข้มข้นของฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ของ องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ ประชาชนในลอนดอนจะมีอายุขัยเพิ่มขึ้น 20% ในอีก 20 ปีข้างหน้า
หากเทียบกับระดับความเข้มข้นที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากปี 2556 คณะนักวิจัยคาดการณ์ว่านโยบายคุณภาพอากาศแบบจำเพาะเจาะจงของลอนดอน ตลอดจนการปรับปรุงคุณภาพอากาศที่เพิ่มมากขึ้น จะช่วยเพิ่มอายุคาดเฉลี่ยของเด็กที่เกิดในลอนดอนในปี 2556 อีก 6 เดือน
ซาดิก ข่าน นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน เรียกรายงานนี้ว่าเป็น “การแจ้งเตือนขั้นเด็ดขาด” พร้อมระบุว่ามลพิษทางอากาศในลอนดอนยังคงเป็นวิกฤตทางสาธารณสุขและจำเป็นต้องมีการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน
โฆษกเทศบาลกรุงลอนดอนระบุว่า ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ของพื้นที่ 99% ของลอนดอนไม่ตรงตามเกณฑ์ที่ WHO แนะนำ
ทั้งนี้ ฝุ่นละออง PM 2.5 คืออนุภาคขนาดเล็กในอากาศที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 2.5 ไมครอนหรือน้อยกว่า ซึ่งสามารถแทรกซึมเข้าไปถึงปอดของมนุษย์ได้ โดยมลพิษทางอากาศจะเป็นปัญหาต่อสุขภาพของผู้คนเมื่อมีอยู่ในระดับสูง
ที่มาสำนักข่าวซินหัว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- วันนี้ 25 จังหวัดกระอัก ‘ฝุ่นพิษ PM2.5’ คาดอากาศแย่ต่อถึง 25 ม.ค.
- ‘วราวุธ’ ลงพื้นที่หนองคาย ดูงาน ‘สวนรุกขชาติไทย-ลาว’ ติดตาม ‘ปัญหามลพิษ’
- ‘บิ๊กตู่’ ปลื้มเปิด ‘เรือไฟฟ้า’ ลดมลพิษสายแรกของไทย แฟนคลับให้กำลังใจเพียบ