พายุฤดูมรสุมในเอเชียใต้ปีนี้ คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วมากกว่า 1,200 คน โดยที่อินเดียยังพบผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง จากเหตุน้ำท่วมใหญ่ในรัฐเกรละ ทางตอนใต้ของประเทศ
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า ในปีนี้ ฤดูมรสุมในเอเชียใต้ ที่จะเริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน และสิ้นสุดลงในเดือนกันยายนของทุกปี ทั้งยังสร้างความเสียหายต่อชีวิต และทรัพย์สินเป็นวงกว้างทุกๆ ปีนั้น ได้ทำให้เกิดอุทกภัยครั้งเลวร้ายสุดในรอบเกือบ 100 ปี ที่รัฐเกรละ
จนถึงขณะนี้ ทางการรัฐเกรละรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 445 ราย และยังมีการค้นพบร่างเหยื่ออุทกภัยอย่างต่อเนื่อง ในช่วงเวลาที่ทางการกำลังดำเนินการสะสางความเสียหาย
เหตุน้ำท่วมดังกล่าว ยังทำให้ผู้คนมากกว่าล้านต้องเข้าพำนักในสถานที่พักพิงชั่วคราวที่ทางการจัดไว้ให้ และยังมีรายงานผู้เสียหายอีก 15 ราย
ยอดผู้เสียชีวิตในรัฐเกรละ คิดเป็นสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วอินเดียที่มีมากกว่า 1,000 ราย ในจำนวนนี้ รวมถึงผู้เสียชีวิตมากกว่า 160 ราย ในรัฐกรณาฏกะที่อยู่ติดกัน อีกมากกว่า 200 รายในรัฐอุตตรประเทศ และ 195 รายในเบงกอลตะวันตก
พายุฤดูมรสุมยังสร้างความเสียหายให้กับเนปาล ที่มีผู้เสียชีวิตแล้ว 87 ราย นับตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา รวมถึงผู้หญิง และเด็ก 8 คน ที่ถูกพัดหายไป ในเหตุการดินถล่มที่หมู่บ้านในพื้นที่ชนบทแห่งหนึ่ง
อย่างไรก็ดี ที่ศรีลังกา ซึ่งมีการสั่งอพยพประชาชน 750,000 ในพื้นที่เสี่ยงไปตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นฤดู ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุมรสุมในปีนี้ลดลงเหลือ 24 ราย จากจำนวน 224 ราย ช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนเมื่อปีที่แล้ว
ส่วนที่บังกลาเทศ เหตุน้ำท่วม และดินถล่ม ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมแล้วอย่างน้อย 29 ราย
ทั้งนี้ เหตุภัยพิบัติช่วงฤดูมรสุมของเอเชียใต้ ที่รุนแรงที่สุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คือเหตุน้ำท่วม และดินถล่มในรัฐอุตตราขัณฑ์ ทางตอนเหนือของอินเดีย เมื่อเดือนมิถุนายน 2556 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 5,800 คน
