อาลีบาบา กรุ๊ป ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซของจีน เล็งควบกิจการธุรกิจบริการส่งอาหาร และระดมทุนสำหรับกิจการควบรวมใหม่ เพิ่มการแข่ขันกับ “เม่ยถวน เตี้ยนปิง” ที่มีเทนเซ็นต์หนุนหลังอยู่ ในการแย่งชิงตลาดบริการตามความต้องการ ที่กำลังเฟื่องฟูอย่างมากในจีน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานอ้างแหล่งข่าวหลายรายว่า หน่วยงานในเครือที่อาลีบาบา จะนำมาควบรวมกิจการกันนั้น รวมถึง เอล ดอท มี แพลตฟอร์มบริการส่งอาหาร และคูเป่ย์ บริหารไลฟ์สไตล์ และอาหาร โดยอาลีบาบากำลังหาทางที่จะระดมทุนให้ได้ราว 3,000 – 5,000 ล้านดอลลาร์ สำหรับหน่วยงานควบกิจการใหม่แห่งนี้ ที่อาจจะมีมูลค่าสูงสุดถึง 25,000 ล้านดอลลาร์
ที่ผ่านมา บรรดาบริษัทลูกของอาลีบาบา และเม่ยถวน ที่มีเทนเซ็นต์ โฮลดิ้งส์ ยักษ์ใหญ่ด้านสื่อสังคมออนไลน์ และเกม ให้การสนับสนุนอยู่ ต่างแย่งชิงที่จะเป็นผู้นำในตลาดออนไลน์สู่ออฟไลน์ (โอทูโอ) ที่มีแอพพลิเคชันเชื่อมต่อผู้ใช้สมาร์ทโฟน เข้ากับธุรกิจดั้งเดิม ในด้านการให้บริการจัดส่งอาหารท้องถิ่น และบริการอื่นๆ อีกหลายด้าน
นายโม เจี่ย นักวิเคราะห์จากคานาลิส บริษัทที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยี แสดงความเห็นว่า อาลีบาบา และเม่ยถวน เป็น 2 บริษัทหลักที่สามารถนำเสนอบริการโอทูโอได้อย่างครอบคลุม โดยบริษัทลูกของอาลีบาบา มีธุรกิจที่เติมเต็มกันและกัน และถือเป็นเรื่องสมเหตุสมผลในเชิงกลยุทธ์ ที่นำกิจการมารวมกันไว้ในแพลตฟอร์มเดียว เพื่อแข่งขันกับเม่ยถวน
ทั้งนี้ มูลค่าของการทำโอทูโอในจีนพุ่งขึ้นถึง 72% เมื่อปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 146,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่รายงานเมื่อเดือนมิถุนายนของไอไอมีเดีย รีเสิร์ช แสดงให้เห็นว่า เอลดอทมี และไป่ตู้ เว่ยเม่ย ที่เอลดอทมี เข้าซื้อกิจการเมื่อปีที่แล้ว ครองส่วนแบ่งในตลาดบริการส่งอาหาร ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้รวมกันแล้วที่ 55% เทียบกับเม่ยถวน ที่มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ 41%
