ฟิลิปปินส์เจอกับฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก และลมกรรโชกแรงในวันนี้ (3 ธ.ค.) หลังพายุไต้ฝุ่นคัมมูริพัดขึ้นฝั่งช่วงกลางดึกวานนี้ (2 ธ.ค.) ประชาชนหลายหมื่นคนต้องเข้าไปอยู่ในที่ศูนย์พักผิงชั่วคราว ขณะกรุงมะนิลาสั่งปิดสนามบินชั่วคราว เพื่อความปลอดภัย
กรมอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์ รายงานว่า แม้จะขึ้นฝั่งมาแล้ว คัมมูริ ซึ่งเป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 20 ที่พัดขึ้นฝั่งฟิลิปปินส์ในปีนี้ ยังคงมีกำลังแรงอยู่ ด้วยความเร็วลมสูงสุดถึง 155 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และความเร็วลมบริเวณใจกลางตาพายุที่ 235 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทิศทางเคลื่อนตัวมุ่งหน้าไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ และคาดว่าจะเคลื่อนตัวผ่านทางตอนใต้ของกรุงมะนิลา ซึ่งมีประชากรอยู่ราว 13 ล้านคน และนักกีฬาอีกหลายพันคนกำลังเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์อยู่
ทางด้านนายลุยซิโต เมนโดซา เจ้าหน้าที่ด้านภัยพิบัติฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า ทางการกำลังประเมินความเสียหายอยู่ ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าน่าจะรุนแรงพอสมควร โดยมีรายงานเข้ามาว่า ในบางพื้นที่เกิดน้ำท่วมสูงถึงหลังคาบ้าน และมีบ้านเรือนจำนวนมากที่ได้รับความเสียหาย กระจกแตก และหลังคาปลิว จากลมพายุ ทั้งยังมีต้นไม้ และเสาไฟฟ้าหักโค่นเป็นจำนวนมาก
จนถึงขณะนี้ ในภูมิภาคไบคอล ที่ได้รับผลกระทบจากพายุโดยตรง มีประชาชนราว 340,000 คน อพยพเข้ามาอยู่ตามศูนย์พักพิงชั่วคราวต่างๆ แล้ว แต่ยังมีอีกจำนวนไม่น้อยที่เลือกจะอยู่ที่บ้าน เพราะเชื่อว่า บ้านที่สร้างจากคอนกรีตมีความแข็งแรงมากพอ
ขณะการท่าอากาศยานนินอย อาควิโน เปิดเผยว่า สนามบินปิดทำการชั่วคราวตั้งแต่เวลา 11.00 น. หรือตรงกับเวลาในไทยราว 10.00 น. แล้ว ตามมาตรการป้องกันล่วงหน้าจากกระแสลมแรง แต่ยังไม่ชัดเจนว่า จะสามารถกลับมาให้บริการได้อีกครั้งเมื่อใด เพราะต้องดูสภาพอากาศก่อน
