หน่วยงานด้านสาธารณสุข ประกาศพบข้อต้องสงสัยที่ผู้ป่วยด้วยโรคปอดอักเสบอย่างรุนแรงอย่างน้อย 450 ราย อาจมีสาเหตุมาจากการใช้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า
ศูนย์ป้องกัน และควบคุมโรคสหรัฐ (ซีดีซี) ออกมายืนยันเมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมาว่า มีผู้เสียชีวิตรายที่ 3 และ 4 ที่อาจมีสาเหตุเกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ไฟฟ้า ในรัฐมินเนสโซตา และอินดีแอนา ของสหรัฐ หลังก่อนหน้านี้รายงานการเสียชีวิตด้วยสาเหตุเดียวกันไปแล้ว 2 ราย ในรัฐอิลลินอยส์ และโอเรกอน
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขรัฐมินเนสโซตา ระบุว่า บุคคลที่เสียชีวิตมีอายุมากกว่า 65 ปี และมีประวัติการป่วยด้วยโรคปอดเรื้อรัง ก่อนที่จะเสียชีวิตไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากที่คนไข้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่สืบสวนได้เชื่อมโยงอาการความเสียหายของปอดเข้ากับ น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่ลักลอบใส่สารทีเอชซี หรือ สารสกัดจากกัญชา
ผู้เสียชีวิตอีกรายหนึ่ง ที่มีความเป็นไปได้ว่าอาจมีสาเหตุเกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้า อยู่ในนครลอสแองเจลิส แต่ในกรณีนี้ ซีดีซียังไม่ยืนยันว่า มีสาเหตุเดียวกับการเสียชีวิตที่กำลังเกิดขึ้นทั่วประเทศหรือไม่
ซีดีซี องค์การอาหารและยาสหรัฐ (เอฟดีเอ) และกรมสาธารณสุขของรัฐต่างๆ ระบุว่า กำลังดำเนินงานร่วมกัน เพื่อหาสาเหตุว่าผลิตภัณฑ์ใด ที่อาจถูกนำมาใช้ และเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับการตรวจสอบภายในห้องทดลอง ซึ่งบรรดาเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขบอกด้วยว่า ยังไม่พบสาเหตุที่แน่ใจ หรือการเชื่อมโยงอย่างชัดเจนระหว่างผู้ป่วยที่เสียชีวิต
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในรัฐนิวยอร์กระบุว่า ในการสอบสวนเพื่อหาความเกี่ยวข้องระหว่างบุหรี่ไฟฟ้า และการอักเสบของปอดอย่างรุนแรงนั้น เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบว่า น้ำยาสำหรับบุหรี่ไฟฟ้า ที่ใส่สารทีเอชซีไปด้วยนั้น เกือบทั้งหมดมีวิตามินอี อะซีเตทผสมอยู่ด้วยในปริมาณสูง
รายงานระบุว่า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มีสารเคมีวิตามินอี อะซีเตทผสมอยู่ด้วย อย่างน้อย 1 รายการ เกี่ยวข้องกับผู้ป่วย 1 ราย ที่มอบผลิตภัณฑ์นี้ให้ทางเจ้าหน้าที่นำไปตรวจสอบ
ผลการทดสอบในห้องทดลองศูนย์วัดสเวิร์ธ ของกรมสาธารณสุขนิวยอร์ก พบว่า ตัวอย่างที่นำมาทดสอบนั้น มีวิตามินอี อะซีเตทผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมาก ซึ่งทางกรมระบุว่า ในตอนนี้ วิตามินอี อะซีเตท เป็นเป้าหมายหลักในการสอบสวนโรคปอดอักเสบอย่างรุนแรง ในรัฐนิวยอร์ก ซึ่งน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่ตรวจพบว่ามีสารนี้อยู่รวมถึง น้ำยารสลูกกวาดต่างๆ
ที่มา : CNN
