รัฐบาลเมียนมา สั่งตรวจสอบราคาทองคำในประเทศ หลังพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
นายวิน มินท์ เลขาธิการสมาคมผู้ประกอบกิจการทองคำภูมิภาคย่างกุ้ง เปิดเผยว่า รัฐบาลเมียนมาได้มีหนังสือมาถึงทางสมาคม เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบราคาทองคำในประเทศที่พุ่งสูงขึ้น หลังเมื่อวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา ราคาทองคำในเมียนมา พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึงบาทละ 1.278 ล้านจ๊าด หรือราว 25,600 บาท
“ความต้องการทองคำบริสุทธิ์ ตามร้านขายทองในเมืองต่างๆ เพิ่มสูงขึ้น เพราะผู้คนพากันกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจ และเสถียรภาพของธนาคาร ซึ่งคาดว่า ราคาทองคำจะกลับสู่ภาวะปกติในเวลาประมาณ 2 สัปดาห์”
เขาบอกด้วยว่า ปัจจัยหนึ่งที่ช่วยหนุนให้ราคาทองในเมียนมาสูงขึ้น คือ ปริมาณทองคำที่มีอยู่น้อย เพราะช่วงนี้อยู่ในช่วงต้นฤดูฝน ทำให้เหมืองส่วนใหญ่ปิดทำการ ทั้งรัฐบาลก็ยังไม่ออกใบอนุญาตใหม่ ทำให้การจัดหาทองคำมีน้อยลง ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ราคาทองคำในช่วงเวลานี้จะสูงขึ้น แต่ที่สูงเป็นพิเศษเพราะปีนี้มีหลายปัจจัยมารวมกัน
ขณะที่นายเมียะ มินท์ ประธานสมาคมผู้ประกอบกิจการทองคำภูมิภาคย่างกุ้ง กล่าวว่า ทางสมาคมได้มีการออกมาตรการชั่วคราวให้สมาชิกปฏิบัติตาม เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับราคาทองคำ รวมถึง การให้ซื้อขายเฉพาะในรูปของเงินสดเท่านั้น และห้ามทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
ทั้งนี้ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เมียนมาร์ ไทมส์ รายงานว่า แม้ราคาจะพุ่งสูงขึ้น แต่ความต้องการทองคำก็ยังเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยเจ้าของร้านทองรายหนึ่งในนครย่างกุ้งให้สัมภาษณ์ว่า มีลูกค้าเข้ามาที่ร้านของเขาจำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่เน้นซื้อทองคำบริสุทธิ์ ไม่ใช่ทองรูปพรรณ เพราะความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเสถียรภาพของธนาคาร ซึ่งในทุกวันนี้ ร้านของเขาขายทองคำบริสุทธิ์ได้วันละเกือบ 4 กิโลกรัม จากเดิมที่ขายได้วันละประมาณ 1 กิโลกรัม