ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดซื้อขายวันนี้ (17 ก.ค.) ปรับตัวลดลงเป็นส่วนใหญ่ หลังขาดแรงหนุนใหม่ ทั้งนักลงทุนยังเกิดความวิตกรอบใหม่ถึงความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีน กับสหรัฐ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่า 2 ฝ่ายยังไม่มีความคืบหน้าในการเจรจา ทั้งราคาน้ำมันยังร่วงลงอย่างมาก
ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุด ลดลง 65.51จุด หรือ 0.30% มาอยู่ที่ 21,469.74 จุด ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกง ปรับตัวลง 74.31 จุด หรือ 0.26% มาอยู่ที่ 28,545.31 จุด ดัชนีคอมโพสิต เซี่ยงไฮ้ ของจีน ขยับขึ้น 3.03 จุด หรือ 0.10% ที่ 2,940.65 จุด และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์ ลดลง 0.91 จุด หรือ 0.03% ที่ 3,359.12 จุด
ส่วนเมื่อคืนนี้ (16 ก.ค. )ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ของสหรัฐ ปิดที่ 27,335.63 จุด ลดลง 23.53 จุด หรือ 0.09% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,004.04 จุด ลดลง 10.26 จุด หรือ 0.34% และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 8,222.80 จุด ลดลง 35.39 จุด หรือ 0.43%
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ปัจจัยเรื่องสงครามการค้ายังสร้างแรงกดดันให้กับตลาดอย่างมาก หลังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าความตึงเครียดจะลดลงในเร็ววันนี้ ทำให้เกิดแรงเทขายขึ้นมา
ทางด้านราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียท กำหนดส่งมอบเดือนสิงหาคม เมื่อคืนนี้ (16 ก.ค.) ร่วงลง 1.96 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 57.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์กำหนดส่งมอบเดือนกันยายน ดิ่งลง 2.13 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 64.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบดิ่งลงมา หลังจากนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐเปิดเผยว่า อิหร่านพร้อมที่จะเจรจาเกี่ยวกับโครงการอาวุธนิวเคลียร์ ทำให้ตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่าน
ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานปริมาณน้ำมันดิบซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (อีไอไอ) มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลในวันนี้
