‘ภูเขาไฟไอซ์แลนด์’ ปะทุรอบ 4 ปิด ‘บลูลากูน’ ประกาศภาวะฉุกเฉิน ‘กรินดาวิก’

โดย The Bangkok Insight Editorial Team 17 มีนาคม 2567

ภูเขาไฟไอซ์แลนด์ ปะทุเป็นครั้งที่ 4 เมื่อวันเสาร์ (16 มี.ค.) พ่นควัน และลาวาขึ้นไปในอากาศ ทางการประกาศภาวะฉุกเฉินรอบใหม่ในเมืองกรินดาวิก ขณะ “บลูลากูน” สปาความร้อนใต้พิภพชื่อดัง ก็ต้องปิดอีกครั้ง

ภาพที่ถ่ายจากเฮลิคอปเตอร์ของหน่วยยามฝั่ง และเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ แสดงให้เห็นภาพลาวาปะทุขึ้นจากรอยแยกบนพื้นดิน และกระจายเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว ซึ่งสำนักงานอุตุนิยมวิทยาไอซ์แลนด์ คาดว่า รอยแยกดังกล่าวมีความยาวประมาณ 2.9 กิโลเมตร ซึ่งมีขนาดใกล้เคียงกับการปะทุครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนกุมภาพันธ์

เจ้าหน้าที่ได้เตือนมาหลายสัปดาห์แล้วว่า การปะทุของภูเขาไฟบนคาบสมุทรเรคยาเนสทางตอนใต้ของเมืองเรคยาวิก เมืองหลวงของไอซ์แลนด์ อาจเกิดขึ้นอีกครั้ง จุดที่มีการปะทุอยู่ระหว่างภูเขาฮากาเฟลล์ และสโตรา-สโคกเฟล ซึ่งเป็นพื้นที่เดียวกับที่เกิดการปะทุครั้งก่อน

ทางด้านเว็บไซต์ของสนามบินเคฟลาวิกในเมืองเรคยาวิกแสดงให้เห็นว่าสนามบินยังคงเปิดให้บริการทั้งเที่ยวบินขาเข้า และขาออก

ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไอซ์แลนด์ ระบุว่า ลาวาดูเหมือนจะไหลลงมาทางใต้อย่างรวดเร็วไปยังเมืองกรินดาวิกที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งมีประชาชนอาศัยอยู่เพียงไม่กี่คน จากเกือบ 4,000 คนที่อพยพออกไปก่อนหน้านี้

ตำรวจไอซ์แลนด์กล่าวว่า ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว ส่วนบลูลากูน สปาความร้อนใต้พิภพชื่อดังที่อยู่ใกล้เคียงต้องปิดให้บริการ เช่นเดียวกับการปะทุครั้งก่อน

ทั้งนี้ ไอซ์แลนด์ มีภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่มากกว่า 30 ลูก ทำให้เกาะแห่งนี้เป็นจุดหมายปลายทางหลักสำหรับการท่องเที่ยวของผู้ที่ชื่นชอบภูเขาไฟ โดยในปี 2553 ควันและเถ้าจากการปะทุ ของภูเขาไฟเอยาฟยาลลาโจกุล ทางตอนใต้ของไอซ์แลนด์ แผ่กระจายไปทั่วพื้นที่ส่วนใหญ่ของยุโรป ทำให้เที่ยวบินกว่า 100,000 เที่ยวต้องหยุดให้บริการ และส่งผลให้ชาวไอซ์แลนด์หลายร้อยคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน

การระเบิดของภูเขาไฟในคาบสมุทรเรคยาเนสเรียกว่า การปะทุของรอยแยก ซึ่งโดยปกติจะไม่ทำให้เกิดการระเบิดขนาดใหญ่ หรือเถ้าถ่านกระจายตัวออกสู่ชั้นสตราโตสเฟียร์อย่างมีนัยสำคัญ สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไอซ์แลนด์ ระบุว่า ก๊าซจากการปะทุดังกล่าวเคลื่อนไปในทะเลทางตะวันตก

นักวิทยาศาสตร์กลัวว่า การปะทุของภูเขาไฟไอซ์แลนด์อาจดำเนินต่อไปอีกนานหลายทศวรรษ และทางการไอซ์แลนด์ได้เริ่มสร้างเขื่อนกั้นเพื่อเปลี่ยนเส้นทางลาวาไม่ให้ไหลมายังบ้านเรือนประชาชน และโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ

การปะทุในเดือนกุมภาพันธ์ยังทำให้ประชาชนมากกว่า 20,000 คนถูกตัดขาดจากระบบทำความร้อน เนื่องจากลาวาทำลายถนน และท่อส่งน้ำมัน

ไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่ระหว่างแผ่นเปลือกโลกยูเรเชียน และอเมริกาเหนือ ถือเป็นแผ่นเปลือกโลกที่ใหญ่ที่สุดในโลก และยังถือเป็นจุดที่มักเกิดแรงสั่นสะเทือน เมื่อแผ่นเปลือกโลกทั้งสองเคลื่อนตัวไปในทิศทางตรงกันข้าม