World News

‘อีลอน มัสก์’ แชมป์เศรษฐี ‘รวยเพิ่มขึ้นมากสุด’ ปี 2566

นิตยสาร “ฟอร์บส์” เปิดผลการจัดอันดับมหาเศรษฐี ที่รวยเพิ่มขึ้นมากสุด ในปี 2566 จำนวน 10 ราย โดยมี “อีลอน มัสก์” นำมาในอันดับ 1 จากความร่ำรวยที่มีเพิ่มขึ้นมากกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์ 

ฟอร์บส์ ระบุว่า สถานการณ์ที่ตลาดหุ้นทั่วโลกทยอยปรับตัวพุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้เหล่ามหาเศรษฐีราวครึ่งหนึ่ง จากจำนวน 2,568 คนทั่วโลก มีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นมาหลายเท่า หากเทียบกับในช่วงต้นปี โดยมหาเศรษฐีที่มีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นมากสุด 10 อันดับแรก มีอัตราความร่ำรวยเพิ่มขึ้นรวมแล้วเป็นเงินสูงถึง 500,000 ล้านดอลลาร์

รวยเพิ่มขึ้นมากสุด

10 อันดับมหาเศรษฐี ที่มีความร่ำรวยเพิ่มขึ้นมากสุดในปี 2566

  • อีลอน มัสก์

เจ้าของ “เทสลา” ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของโลก มีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นมากสุด ถึง 108,000 ล้านดอลลาร์ แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นอย่างน่าทึ่งของหุ้นเทสลา ทำให้เขามีความทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 254,900 ล้านดอลลาร์

ทั้งธุรกิจจรวดสเปซเอ็กซ์ของเขา ก็ประสบความสำเร็จในการเปิดตัวมากกว่า 90 ครั้งในปีนี้ ส่งผลให้มูลค่าของสเปซเอ็กซ์ พุ่งสูงขึ้นเป็นมูลค่า 150,000 ล้านดอลลาร์ ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และขณะนี้กล่าวกันว่าอยู่ในขั้นตอนการขายหุ้นที่มูลค่า 180,000 ล้านดอลลาร์

  • มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก

จากธุรกิจเทคโนโลยี “เฟซบุ๊ก” ที่รวยเพิ่มขึ้น 74,800 ล้านดอลลาร์ ทำให้มีสินทรัพย์สุทธิที่ 118,600 ล้านดอลลาร์

หลังจากผ่านพ้นวิกฤติในปี 2565 ไปได้อย่างยากลำบากด้วยราคาหุ้นตกต่ำ ผลกำไรร่วงหล่น และการเลิกจ้างอย่างมีนัยสำคัญ แต่ในไตรมาส 4 ของปีนี้ ซักเคอร์เบิร์ก สามารถกลับมายืนหยัดอย่างสง่างามอีกครั้ง โดยเพิ่มความมั่งคั่งราว 75,000 ล้านดอลลาร์

ขณะเดียวกันราคาหุ้นของเมตา บริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก ก็ยังเพิ่มขึ้นถึง 178% ในปีนี้ จากข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2566 ซึ่งถือเป็นปีที่ดีที่สุดของเขาเท่าที่เคยมีมา

รวยเพิ่มขึ้นมากสุด
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก
  • เจฟฟ์ เบโซส 

จากธุรกิจเทคโนโลยี “อเมซอน”  รวยเพิ่มขึ้น 65,000 ล้านดอลลาร์ ทำให้มีสินทรัพย์สุทธิที่ 172,300 ล้านดอลลาร์ โดยราคาหุ้นอเมซอน เพิ่มขึ้น 79% ในปีนี้ ทำให้ เบโซส ได้เป็นเจ้าของเรือยอทช์ลำใหม่ด้วย

นอกจากนี้ เขายังได้หมั้นหมายกับอดีตผู้ประกาศข่าวโทรทัศน์ ลอว์เรน ซานเชซ ในปีนี้ด้วยเช่นกัน ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีหลายต่อที่ทำให้เขาน่าจะเฉลิมฉลองข่าวดีและความรวยที่พุ่งกระฉูดในปีนี้ด้วย

  • ปราโจโก ปันเกสตู

รวยเพิ่มขึ้น 47,900 ล้านดอลลาร์ ทำให้มีสินทรัพย์สุทธิที่  52,800 ล้านดอลลาร์ โดยมหาเศรษฐีอินโดนีเซียรายนี้ ร่ำรวยจากธุรกิจไม้ และปิโตรเคมี เขาเข้าจดทะเบียนธุรกิจเหมืองถ่านหินในเดือนมีนาคม ก่อนที่ในเดือนตุลาคม จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซีย ถือเป็นบริษัทพลังงานทดแทน ที่เป็นเจ้าของผู้ผลิตความร้อนใต้พิภพรายใหญ่ที่สุดของประเทศ และหนุนให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นตั้งแต่นั้นมามากกว่า 800%

  • แลร์รี เพจ

จากธุรกิจเทคโนโลยี “กูเกิล” รวยเพิ่มขึ้น 34,400 ล้านดอลลาร์ ทำให้มีสินทรัพย์สุทธิที่ 111,700 ล้านดอลลาร์ โดยราคาหุ้นอัลฟาเบต บริษัทแม่ของกูเกิล เพิ่มขึ้น 50% ในปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนรอคอยซอฟต์แวร์ Gemini AI ที่มีกำหนดออกมาในปี 2567  ซึ่งอัลฟาเบต ที่ เพจ ร่วมมือกับ เซอร์เกย์ บริน ก่อตั้งขึ้นมาในปี 2541 ได้เปิดตัว AI chatbot Bard ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

  • อามันซิโอ ออร์เตกา

จากธุรกิจเสื้อผ้าแฟชั่น “ซารา” รวยเพิ่ม 33,200 ล้านดอลลาร์ ทำให้มีสินทรัพย์สุทธิที่ 97,400 ล้านดอลลาร์  โดยราคาหุ้น อินดิเท็กซ์ บริษัทแม่ของแบรนด์เสื้อผ้าฟาสต์แฟชั่นชื่อดัง ท่ะยานขึ้นมา 57% ในปีนี้ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งถือเป็นข่าวดีสำหรับออร์เตกา มหาเศรษฐีชาวสเปน ผู้ถือหุ้น 60% ในบริษัท และนั่งเป็นคณะกรรมการร่วมกับลูกสาว มาร์ตา ออร์เตกา เปเรซ ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานมาตั้งแต่ปี 2565

รวยเพิ่มขึ้นมากสุด
อามันซิโอ ออร์เตกา
  • เซอร์เกย์ บริน 

จากธุรกิจเทคโนโลยี “กูเกิล” รวยเพิ่ม 33,000 ล้านดอลลาร์ ทำให้มีสินทรัพย์สุทธิที่ 107,300 ล้านดอลลาร์ โดยบรินลาออกจาก กูเกิล ในปี 2562 แต่เขาก็หวนกลับมายังบริษัทเดิม ในตำแหน่งที่ต้องมีหน้าที่รับผิดชอบมากที่สุดในปี 2566 โดยเขาทำงานเกี่ยวกับการพัฒนาขีดความสามารถด้านต่าง ๆ ของระบบ AI

  • สตีฟ บอลเมอร์ 

จากธุรกิจเทคโนโลยี “ไมโครซอฟท์” รวยเพิ่มขึ้น 32,400 ล้านดอลลาร์ ทำให้มีสินทรัพย์สุทธิที่ 110,900 ล้านดอลลาร์ แม้จะเป็นอดีตซีอีโอไปแล้ว แต่เขายังถือหุ้นไมโครซอฟท์อยู่

ราคาหุ้นของไมโครซอฟท์ ทะยานขึ้นมามากถึง 55% ผลจากการเข้าลงทุน 10,000 ล้านดอลลาร์ ใน “โอเพนเอไอ” ผู้พัฒนา “Chat GPT”

  • แลร์รี เอลลิสัน 

จากธุรกิจเทคโนโลยี “ออราเคิล” รวยเพิ่มขึ้น 30,800 ล้านดอลลาร์ ทำให้มีสินทรัพย์สุทธิที่ 133,200 ล้านดอลลาร์ โดยความต้องการบริการของศูนย์ข้อมูล ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ช่วยหนุนให้ราคาหุ้นของออราเคิล บริษัทซอฟต์แวร์ยักษ์ใหญ่ที่เอลลิสัน ก่อตั้งขึ้นในปี 2520 ทะยานขึ้นมา 26% ในปีนี้  ส่งผลให้เขา ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีมีความมั่งคั่งเพิ่มบขึ้นอย่างมาก

รวยเพิ่มขึ้นมากสุด
แลร์รี เอลลิสัน
  • เจนเซน ฮวง

จากธุรกิจเทคโนโลยี “เอ็นวิเดีย” รวยเพิ่มขึ้น 29,800 ล้านดอลลาร์ ทำให้มีสินทรัพย์สุทธิที่ 43,600 ล้านดอลลาร์  โดย ฮวง ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้ง และซีอีโอของเอ็นวิเดีย ได้รับอานิสงส์อย่างเต็มที่ จากการเฟื่องฟูของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เนื่องจากบริษัทของเขาเป็นผู้ออกแบบชิป ที่ใช้กับเทคโนโลยีนี้มากกว่าทุกบริษัท

สถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ราคาหุ้นบริษัทพุ่งขึ้น 230% ในปี 2566 และทำให้มูลค่าตลาดของเอ็นวีเดัย สูงถึง 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ ฮวง ที่เกิดในไต้หวัน กลายเป็น 1 ใน 20 ชาวอเมริกัน ที่ร่ำรวยที่สุดด้วยเช่นกัน

ที่มา: นิตยสารฟอร์บส์ 

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo