“ฮ่องกง” ร่วงมาอยู่หลังคู่แข่งอย่าง “สิงคโปร์ ” ในการจัดอันดับ “เมืองมั่งคั่งสุดในโลก” ที่มี “นครนิวยอร์ก” ของสหรัฐ ครองอันดับ 1
เฮนลีย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส บริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนชั้นนำ เผยแพร่รายงาน “เมืองมั่งคั่งที่สุดในโลก” ประจำปี 2566 ที่ร่วมมือกับ นิว เวิลด์ เวลธ์ บริษัทจัดเก็บข้อมูลด้านมั่งคั่ง จัดทำขึ้นมา พบว่า ระหว่างปี 2555-2565 จำนวนมหาเศรษฐีที่มีสินทรัพย์ล้านดอลลาร์ ในฮ่องกงลดลง 27% มาอยู่ที่ 129,500 คน เทียบกับ “สิงคโปร์” ที่มีจำนวนมหาเศรษฐีเพิ่มขึ้น 40% ที่ 240,100 คน ส่งผลให้สถานะความมั่งคั่งของฮ่องกง ร่วงจากอันดับ ในปี 2555 มาอยู่ที่ อันดับ 7 ในปีนี้ และตามหลังสิงคโปร์อยู่ 2 อันดับ
รายงานชี้ว่า การที่รัฐบาลจีนเข้ามาควบคุมฮ่องกงอย่างเข้มงวดมากขึ้น ทำให้เกิดการอพยพของความมั่งคั่ง และบรรดาตระกูลมหาเศรษฐีต่าง ๆ พากันย้ายสำนักงานไปยังศูนย์กลางทางการเงินอื่น ๆ
ในขณะที่ ระหว่างปี 2555-2563 สิงคโปร์มีจำนวนบริษัทเพื่อการลงทุนดังกล่าวสำหรับอภิมหาเศรษฐี เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว ทำให้ในขณะนี้ ฮ่องกงกำลังพยายามที่จะไล่ตามสิงคโปร์ให้ทัน
รายงานระบุว่า นครนิวยอร์ก ของสหรัฐ เป็นแหล่งที่อยู่ของคนร่ำรวย ที่สามารถลงทุนได้อย่างน้อย 1 ล้านดอลลาร์มากที่สุด ส่วนย่านเบย์ แอเรีย (ซานฟรานซิสโก และซิลิคอน วัลเลย์) และลอสแอนเจลิส ก็ติดอยู่ในอันดับต้น ๆ เช่นกัน โดยเบย์ แอเรีย มีจำนวนมหาเศรษฐีที่มีทรัพย์สินมากกว่าพันล้านดอลลาร์อยู่ 63 ราย มากกว่าทุกสถานที่ทั่วโลก
ขณะที่ กรุงลอนดอน ของอังกฤษ ร่วงลงมาอยู่ในอันดับ 4 ของการจัดอันดับ และกรุงโตเกียว ของญี่ปุ่น อยู่ในอันดับ 2
นายเยิร์ก สเตฟเฟน ซีอีโอ เฮนลีย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส กล่าวว่า เมืองส่วนใหญ่ที่ติดอันดับต่างอยู่ในประเทศที่มีโครงการช่วยเหลือด้านการโยกย้ายเงินทุน และส่งเสริมการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ เพื่อแลกกับการอยู่อาศัย หรือสิทธิการเป็นพลเมือง
10 อันดับเมืองมั่งคั่งสุดในโลก ปี 2566
- นครนิวยอร์ก
- กรุงโตเกียว
- เบย์ แอเรีย
- กรุงลอนดอน
- สิงคโปร์
- นครลอสแอนเจลิส
- ฮ่องกง
- กรุงปักกิ่ง
- นครเซี่ยงไฮ้
- นครซิดนีย์
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ฮ่องกง’ ออกมาตรการใหม่ หวังจูงใจ ‘ครอบครัวมั่งคั่ง’ เข้ามาตั้งสำนักงาน
- ‘อ็อกซ์แฟม’ เผย คนรวย 1% ของโลกถือครอง 2 ใน 3 ความมั่งคั่งโลก
- ‘เศรษฐีจีน’ แห่ปรับพอร์ต เน้น ‘ลงทุนต่างประเทศ’ จำกัดความเสี่ยง ‘ขาดทุน’ ในบ้านเกิด