เจ้าหน้าที่กู้ภัยอินเดียเปลี่ยนวิธีไปใช้การขุดด้วยมือแทนการสอดท่อเข้าไป เพื่อช่วยเหลือคนงาน 41 คนที่ติดอยู่ในอุโมงค์ ที่พังถล่มลงมาในแถบเทือกเขาหิมาลัย ตั้งแต่ 16 วันที่แล้ว
วีโอเอ รายงานว่า เจ้าหน้าที่จะใช้วิธีขุดเหมือง แบบที่เรียกว่า “รูหนู” คือการขุดช่องแคบ ๆ ให้พอแทรกตัวได้ผ่านเข้าไปในเศษหินและดิน ที่ถล่มลงมา เพื่อเข้าถึงด้านในของอุโมงค์
พล.ท.ฮาร์พาล ซิงห์ อดีตนายทหารกองทัพอินเดีย ผู้ให้คำปรึกษาด้านการช่วยเหลือผู้ที่ติดภายในอุโมงค์ กล่าวว่า ขณะนี้ไม่มีวิธีอื่นนอกจากการใช้มือขุด ซึ่งเป็นวิธีที่ปลอดภัยในการเข้าถึงคนงานเหล่านั้น โดยจะมีมาตรการดูแลความปลอดภัย สำหรับผู้ที่ทำงานขุดเจาะเศษหินและดินดังกล่าวด้วย
อุโมงค์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการก่อสร้างทางหลวงขนาดใหญ่ในรัฐอุตตราขัณฑ์ทางภาคเหนือของอินเดีย พังถล่มลงมาเมื่อวันที่ 12 พ.ย. ทำให้คนงาน 41 คนติดอยู่ด้านใน
เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามใช้อุปกรณ์ขุดเจาะเพื่อสอดท่อเข้าไปให้คนงานลอดออกมา แต่ประสบความล้มเหลวหลายครั้ง เนื่องจากไม่สามารถเจาะผ่านก้อนหินขนาดใหญ่ ประกอบกับมีความเปราะบางของพื้นที่ในบริเวณนั้น
อย่างไรก็ดี การขุดเจาะลงไปจากด้านบนของภูเขายังคงดำเนินต่อไป เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการช่วยเหลือบรรดาคนงาน แม้ว่าจะมีความเสี่ยงสูงกว่าที่อาจทำให้เกิดดินถล่มลงมาอีกรอบ
ก่อนหน้านี้ นายมาห์มูด อาหมัด ผู้บริหารของบรรษัทพัฒนาทางหลวง และโครงสร้างพื้นฐานแห่งชาติของอินเดีย กล่าวว่า จะต้องเจาะลงไปจากด้านบนราว 86 เมตรภายในเวลา 4 วัน คือภายในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ โดยหวังว่าจะไม่มีอุปสรรค และจะสามารถทำงานสำเร็จได้ตามเวลา
การติดต่อสื่อสารกับคนงานทั้ง 41 คนยังคงดำเนินต่อไปภายใต้ภารกิจช่วยเหลือดังกล่าว ผ่านทางกล้องขนาดเล็กที่ใส่ไปกับท่อความกว้าง 15 เซนติเมตร ที่สอดเข้าไปด้านในของอุโมงค์ตั้งแต่วันอังคารที่แล้ว (21 พ.ย.) โดยมีการส่งอาหาร โทรศัพท์มือถือ และยาต่าง ๆ ผ่านท่อดังกล่าว รวมทั้งส่งอ็อกซิเจนผ่านทางอีกท่อหนึ่งด้วย
การก่อสร้างอุโมงค์ความยาว 4.5 กิโลเมตรในรัฐอุตตราขันธ์ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสร้างทางหลวงแห่งชาติบนเส้นทางแสวงบุญ ชาร์ธัม ของชาวฮินดู ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ของรัฐบาลอินเดีย ภายใต้นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี โดยมีเป้าหมายเชื่อมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาฮินดู 4 แห่งไว้ด้วยกัน ผ่านถนน 2 เลนเป็นระยะทาง 889 กิโลเมตร มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านดอลลาร์
การก่อสร้างส่วนที่เป็นอุโมงค์เริ่มขึ้นเมื่อปี 2561 และมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2565 แต่ต้องเลื่อนไปเป็นปี 2567 เนื่องจากเผชิญกับเสียงวิจารณ์เรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และความเปราะบางของพื้นที่ในบริเวณนั้น ทำให้การก่อสร้างต้องระงับไปชั่วคราว หลังจากที่บ้านเรือนหลายร้อยแห่งได้รับความเสียหายจากการทรุดตัวของพื้นที่ตลอดการก่อสร้างเส้นทางสายนี้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- จีน อ่วม! เจ้อเจียงเจอฝนตกหนัก ทำสะพานข้ามแม่น้ำถล่ม ขณะปักกิ่งน้ำท่วมหนักสุดรอบหลายสิบปี
- ‘อียิปต์’ เร่งสอบเหตุอาคารถล่ม พบผู้เสียชีวิตแล้ว 13 ราย
- ‘ปากีสถาน’ เจอหิมะถล่มในช่องเขา ดับ 11 ศพ บาดเจ็บกว่า 25 ราย