ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน เดินทางสู่นครซานฟรานซิสโกของสหรัฐ เมื่อวานนี้ (14 พ.ย.) เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดระดับสูงกับ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ อันจะนำสู่การแสวงหาวิถีทางเดินหน้าสายสัมพันธ์ระหว่างสองชาติเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า นครซานฟรานซิสโกเคยเป็นจุดหมายแรกในการเยือนสหรัฐครั้งแรกของสี จิ้นผิง เมื่อหลายทศวรรษก่อน โดยช่วงฤดูใบไม้ผลิ ปี 2528 ประธานาธิบดีสี ซึ่งเวลานั้นเป็นนายอำเภอเจิ้งติ้ง มณฑลเหอเป่ย ทางตอนเหนือของจีน ได้เดินทางเยือนนครซานฟรานซิสโก และถ่ายรูปกับสะพานโกลเดนเกต
การเดินทางเยือนครั้งนั้นช่วยให้สี จิ้นผิง คนหนุ่มวัยสามสิบต้น ๆ ได้ทำความคุ้นเคยกับสหรัฐ และบ่มเพาะมิตรภาพกับประชาชนอเมริกันนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยสายใยมิตรภาพอันแข็งแกร่ง และยืนยงดังกล่าว เป็นดังบ่อน้ำแห่งความมีชีวิตชีวาของสายสัมพันธ์ทวิภาคีทั้งในยามสุขสมและยามทุกข์ยาก
“สำหรับผม คุณคืออเมริกา”
“ประชาชนชาวจีน และชาวอเมริกันต่างยอดเยี่ยม มิตรภาพระหว่างประชาชนสองประเทศไม่เพียงเป็นทรัพย์สมบัติล้ำค่า แต่ยังเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคี” สี จิ้นผิง เขียนในจดหมายที่ส่งถึงซาราห์ แลนเด ผู้เขียนหนังสือบันทึกความทรงจำ “เพื่อนเก่า: เรื่องราวของสีจิ้นผิง-ไอโอวา” (‘Old Friends’: The Xi Jinping-Iowa Story) เมื่อปี 2565
แลนเด ชาวเมืองมัสคาทีนที่ทำงานอยู่องค์กร “รัฐพี่รัฐน้อง” ของรัฐไอโอวา ได้ช่วยประสานงานการเยือนสหรัฐ ของสี จิ้นผิงในปี 2528 โดยสี จิ้นผิง นำคณะผู้แทนทางการเกษตร จำนวน 5 คน เยี่ยมชมเทคโนโลยีการทำฟาร์มในเมืองมัสคาทีน ของรัฐไอโอวา ซึ่งถือเป็นผู้นำการผลิตข้าวโพดและถั่วเหลืองของสหรัฐ
“เขายิ้มไม่หยุด ทั้งสงสัยใคร่รู้และตั้งคำถามเกี่ยวกับทุกสิ่ง” แลนเดเล่าย้อนความหลัง พร้อมเสริมว่า กำหนดการเดินทางในเมืองมัสคาทีน ของสี จิ้นผิง ประกอบด้วยการเยี่ยมชมโรงงานแปรรูปข้าวโพด ฟาร์มสุกร และฟาร์มผัก ให้สัมภาษณ์สื่อท้องถิ่น และล่องเรือในแม่น้ำมิสซิสซิปปี
นอกจากนั้น มีการพักอาศัยอยู่โฮมสเตย์ เพื่อทำความเข้าใจวัฒนธรรมที่ต่างกันของอีกฝ่ายได้ดียิ่งขึ้น โดยโทมัส และเอเลนอร์ ดวอร์ชัก ได้เปิดบ้านรับรองสี จิ้นผิง ซึ่งเข้าพักผ่อนในห้องนอนของแกรี ลูกชายของครอบครัวดวอร์ชัก ผู้จากบ้านไปเรียนมหาวิทยาลัย
“ฉันคิดว่าเขาดูเป็นมิตร มุ่งมั่นตั้งใจ และสุภาพมาก” เอเลนอร์ ดวอร์ชัก เล่าย้อนถึงวันวาน โดยเอเลนอร์เผยว่า สี จิ้นผิง เป็นหนึ่งในเพื่อนชาวจีนกลุ่มแรก ที่พวกเขาได้ทำความรู้จัก
ริกกี การ์เรตต์ ประธานและซีอีโอของซิสเตอร์ ซิตีส์ อินเตอร์เนชันแนล (Sister Cities International) องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่มีฐานอยู่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. กล่าวว่ามีการแลกเปลี่ยนอันดีระหว่างสหรัฐ และจีน ที่นำพาประชาชนมาพบปะเจอกันในวิถีทางที่บางครั้งไม่เกิดขึ้นบนเวทีการเมือง
สี จิ้นผิง และเหล่าเพื่อนเก่าชาวอเมริกัน ได้กลับมาพบเจอกันอีกครั้งที่รัฐไอโอวาในปี 2555 หลังจากกาลเวลาผันผ่านนานถึง 27 ปี โดยครั้งนั้นสี จิ้นผิง เดินทางเยือนสหรัฐ ในฐานะรองประธานาธิบดีจีน และพบปะกับเหล่าเพื่อนเก่าที่บ้านของแลนเดในวันหิมะตก แม้ตารางการทำงานจะแน่นขนัด
พวกเขารวมตัวกันที่ห้องนั่งเล่นในบ้านของแลนเด และชวนกันย้อนรำลึกความทรงจำอันเต็มเปี่ยมด้วยความปิติยินดี ซึ่งการพบปะพูดคุยนาน 1 ชั่วโมงครั้งนั้น เต็มไปด้วยรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ ซึ่งโทมัส ดวอร์ชัก เผยถึงความประทับใจต่อสุราจีน ที่สี จิ้นผิง มอบเป็นของขวัญว่าเป็นสุรารสชาติเข้มที่สุดเท่าที่เคยดื่มมา
แลนเดเล่าย้อนว่า ตอนนั้นมีคนหนึ่งถามสี จิ้นผิง ว่า “ทำไมถึงมาไอโอวา” ซึ่งเขาก็ตอบว่า “พวกคุณเป็นชาวอเมริกันกลุ่มแรกที่ผมได้ติดต่อสื่อสาร สำหรับผม พวกคุณคืออเมริกา”
สี จิ้นผิง ไม่เคยลืมผองเพื่อนชาวอเมริกัน และเชื่อว่าประชาชนคือกุญแจสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างรัฐชาติ โดยช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐ จะถอยหลังลงคลอง แต่สี จิ้นผิง ยังคงสนับสนุนการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนกับสหรัฐอย่างต่อเนื่อง โดยเขียนจดหมายถึงชาวอเมริกัน และร่วมงานต่างๆ เพื่อช่วยส่งเสริมมิตรภาพ
โรเบิร์ต ลอว์เรนซ์ คุห์น ประธานมูลนิธิคุห์น และผู้เชี่ยวชาญด้านจีน กล่าวว่าวิถีทางอันทรงประสิทธิภาพมากที่สุดในการพลิกเปลี่ยนโอกาสและความต้องการสู่การทำงานร่วมกันในเชิงรุกและความสัมพันธ์อันเข้มแข็งคือผ่านการมีปฏิสัมพันธ์โดยตรงระหว่างประชาชน
สายสัมพันธ์ระดับท้องถิ่นเป็นดังกาว
ย้อนกลับสู่ตอนที่จีนเริ่มต้นการปฏิรูปและเปิดประเทศ มีหลายเมือง มณฑล และรัฐของจีน และสหรัฐ เริ่มต้นสร้างสายสัมพันธ์ฉันมิตรช่วงราวปี 2522 โดยมณฑลเหอเป่ยของจีน และรัฐไอโอวาของสหรัฐ ได้ลงนามข้อตกลงความสัมพันธ์รัฐพี่รัฐน้องในปี 2526 นำสู่การเยือนสหรัฐของสี จิ้นผิงในปี 2528
หลายปีที่ผ่านมา สี จิ้นผิงได้ส่งเสริมสายสัมพันธ์ทวิภาคีในระดับท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง โดยเขารำลึกถึงการเดินทางเยือนรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อหลายทศวรรษก่อน ขณะพบปะหารือกับเกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเดินทางเยือนกรุงปักกิ่งเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
เมื่อครั้งเดินทางเยือนสหรัฐ ในปี 2555 ผู้นำจีน ยังได้พบปะกับ “เพื่อนใหม่” โดยเขา และไบเดน ซึ่งเวลานั้นเป็นรองประธานาธิบดีสหรัฐได้พบกับบรรดาผู้ว่าการมณฑลของจีน และรัฐของสหรัฐ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย
ขณะกล่าวสุนทรพจน์ สีจิ้นผงเผยว่าเขาสังเกตเห็นนีล อาเบอร์ครอมบี ผู้ว่าการรัฐฮาวาย มีกล่องช็อกโกแลตอยู่กับตัว และนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวนมากที่กลับจากฮาวายจะซื้อช็อกโกแลตมาด้วย
อาเบอร์ครอมบีหยิบกล่องถั่วเคลือบช็อกโกแลต และชวนสี จิ้นผิงลองชิม ด้านไบเดนที่นั่งอยู่ใกล้กัน ได้หยิบช็อกโกแลตชิ้นหนึ่งไปรับประทานอย่างรวดเร็ว ส่วนสี จิ้นผิงลองรับประทานช็อกโกแลตดังกล่าว หลังจากกล่าวสุนทรพจน์เสร็จสิ้น พร้อมส่งต่อกล่องช็อกโกแลตแก่เหล่าผู้ว่าการให้ได้ลองชิมรสชาติด้วย
นอกจากนั้น เขายังเดินทางเข้าชมการแข่งขันบาสเกตบอลเอ็นบีเอ (NBA) นัดสโมสรเลเกอร์ส พบกับสโมสรฟีนิกซ์ ซันส์ โดยมีอันโตนิโอ วิลลาไรโกซา นายกเทศมนตรีนครลอสแอนเจลิสในเวลานั้น นั่งเคียงข้าง และพูดคุยถึงเกมการแข่งขันตรงหน้ากันอย่างสนุกสนาน
สายสัมพันธ์ระหว่างเมืองและมณฑลของจีน กับเมืองและรัฐของสหรัฐ ได้เติบโตตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา มีการจัดตั้งมณฑล/รัฐพี่น้อง และเมืองพี่เมืองน้อง ทั้งหมด 284 คู่ นับตั้งแต่การจัดตั้งคู่แรกในปี 2522 โดยสี จิ้นผิง ชี้ว่า สายสัมพันธ์พิเศษเหล่านี้เป็น “เวทีสำคัญสำหรับส่งเสริมมิตรภาพให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นและบรรลุความร่วมมือที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์”
เดนิส ไซมอน นักวิจัยประจำสถาบันจีน-อเมริกาศึกษา กล่าวว่าหากมองย้อนความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีน ในช่วง 40 กว่าปีที่ผ่านมา การเชื่อมโยงระหว่างมหาวิทยาลัย คลังสมอง องค์กรวัฒนธรรม ศิลปะ กลายเป็นส่วนสำคัญของความสัมพันธ์นี้ กลายเป็นกาวยึดโยงสองประเทศเข้าด้วยกัน แม้เกิดสถานการณ์ความยุ่งยากทางการเมือง
ความหวังในอนาคต
ชอนเทล เบอร์รี นักเรียนโรงเรียนมัธยมลินคอล์นในเมืองทาโคมา รัฐวอชิงตันของสหรัฐ ได้พบปะพูดคุยกับผู้นำจีน ที่หอประชุมของโรงเรียนในปี 2558 ซึ่งนำสู่การสัมผัสประสบการณ์แสนพิเศษที่เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อน
ปีนั้น สี จิ้นผิง พร้อมด้วยเผิง ลี่หยวน ผู้เป็นภริยา เยี่ยมชมโรงเรียนมัธยมลินคอล์นระหว่างเยือนสหรัฐอย่างเป็นทางการครั้งแรกในฐานะประธานาธิบดีจีน โดยเบอร์รีเล่าว่าสี จิ้นผิง ในลุคปลดกระดุมคอเสื้อ และไม่ได้ผูกเนคไท มอบของขวัญแก่เหล่านักเรียน รวมถึงหนังสือเกี่ยวกับจีน และโต๊ะปิงปอง
ขณะเดียวกันเขาก็ได้รับของขวัญจากกลุ่มนักเรียน ซึ่งเป็นลูกฟุตบอล และเสื้อสั่งทำพิเศษที่ปักชื่อของเขาและหมายเลข 1 ที่ด้านหลังด้วย
ทว่า สิ่งที่สี จิ้นผิง นำเสนอระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของเบอร์รี และเพื่อนนักเรียนจำนวนมาก นั่นคือการเชิญนักเรียนจากโรงเรียนมัธยมแห่งนี้จำนวน 100 คน เดินทางเยือนจีน โดยบอกว่า การเดินทางเยือนจะช่วยให้รู้จักจีนดียิ่งขึ้น และหวังว่าจะทำให้ชอบประเทศจีน
เบอร์รีเป็นหนึ่งในนักเรียนที่ได้เดินทางเยือนจีนในปี 2559 ตามคำเชิญข้างต้น เธอเล่าว่าการเดินทางเยือนจีน ทำให้รู้ว่าเราล้วนมีวิถีชีวิตแตกต่างกัน และวิธีการใช้ชีวิตมีความหลากหลาย โดยเธอได้เรียนรู้ค่านิยม และการเคารพของประชาชนชาวจีน ซึ่งทำให้ตกใจเมื่อเทียบกับในสหรัฐ
สี จิ้นผิงเชื่อมั่นในเยาวชนคนรุ่นใหม่อย่างมาก ครั้งหนึ่งเขาเคยแสดงความหวังว่า เยาวชนจากจีนและสหรัฐจะได้มีโอกาสทำความรู้จักกับอีกฝ่ายกันมากขึ้น และทำงานร่วมกันในฐานะทูตมิตรภาพรุ่นใหม่ เพื่ออัดฉีดแรงกระตุ้นสดใหม่สู่การพัฒนาความสัมพันธ์ 2 ประเทศ
แพทริค เออร์วิน อาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนมัธยมลินคอล์น ซึ่งพาสีจิ้นผิงเยี่ยมชมโรงเรียนในปี 2558 กล่าวว่า สี จิ้นผิง เล็งเห็นความสำคัญของการแลกเปลี่ยนทางการศึกษาอย่างมาก
ปี 2564 ขณะความสัมพันธ์จีน-สหรัฐ อยู่ในช่วงตกต่ำ เออร์วินได้เขียนจดหมายถึงสี จิ้นผิง บอกเล่าเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนระหว่างโรงเรียนมัธยมลินคอล์นและจีน ตลอดหลายปีที่ผ่านมา และความสำคัญของการเป็นหุ้นส่วนทางการศึกษาที่มีต่อนักเรียนโรงเรียนมัธยมลินคอล์น
เออร์วินเผยว่า เป็นประสบการณ์ที่เปลี่ยนชีวิต ทั้งในแง่ของการเดินทาง รวมถึงการสัมผัสวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และประชาชนชาวจีน โดยนักเรียนของเขาพากันอยากกลับไปจีน และเรียนต่อที่จีน
หวัง ตง ผู้อำนวยการบริหารสถาบันความร่วมมือและความเข้าใจระดับโลก สังกัดมหาวิทยาลัยปักกิ่ง กล่าวว่า เยาวชนคนรุ่นใหม่เชื่อมั่นในอนาคต ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงแสดงวิสัยทัศน์อันยิ่งใหญ่เกี่ยวกับความสัมพันธ์จีน-สหรัฐ และความคาดหวังต่อมิตรภาพระหว่างสองประเทศ
“มีความคาดหวังว่า การกลับไปเยือนนครซานฟรานซิสโกครั้งนี้ของสี จิ้นผิง จะเป็นก้าวย่างที่ผลักดันความสัมพันธ์จีน-สหรัฐ ให้เดินไปข้างหน้า” หวังกล่าวทิ้งท้าย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘สี จิ้นผิง’ พบ ‘นายกออสเตรเลีย’ กระชับสัมพันธ์ 2 ชาติ หลังตึงเครียดมานาน
- ‘ฮุน มาเนต’ พบ ‘สี จิ้นผิง’ สานต่อสัมพันธ์ หนุนพัฒนาเศรษฐกิจ-ความร่วมมือทวิภาคี
- ‘สี จิ้นผิง’ พบ ‘บลิงเคน’ แสดงความหวัง สัมพันธ์กับสหรัฐจะดีขึ้น