World News

คาด สู้รบ ‘อิสราเอล-ฮามาส’ ดัน ‘ราคาทอง’ พุ่งแรง แห่ซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

นักวิเคราะห์คาดว่า การสู้รบ ‘อิสราเอล-ฮามาส’ ทำตะวันออกกลางตึงเครียดหนัก หนุนราคาทองคำในตลาดโลกพุ่งขึ้น เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

นายแมตต์ ซิมป์สัน นักวิเคราะห์จากซิตี้ อินเด็กซ์ คาดการณ์ว่า การสู้รบระหว่างอิสราเอลและฮามาส ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธในปาเลสไตน์ จะทำให้ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ มีความรุนแรงมากขึ้น และอาจเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำในตลาดโลก พุ่งขึ้นแตะระดับ 1,880 ดอลลาร์ต่ออนซ์ และหากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลงด้วยแล้ว ก็คาดว่าราคาทองคำอาจไต่ขึ้นจนถึงระดับ 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ราคาทองคำ

ในช่วงเที่ยงวันนี้ (9 ต.ค.) ตามเวลาไทย ราคาทองฟิวเจอร์พุ่งขึ้น 20.40 ดอลลาร์ หรือ 1.11% แตะที่ระดับ 1,865.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองสปอตพุ่งขึ้น 1% แตะที่ 1,849.51 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ทั้งนี้ กลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอลแบบไม่ทันตั้งตัวในช่วงเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา (7 ต.ค.) โดยระดมยิงจรวดหลายพันลูกจากฉนวนกาซา พร้อมทั้งส่งกองกำลังติดอาวุธหลายสิบคน แทรกซึมเข้าไปโจมตีในหลายเมืองทางตอนใต้ของอิสราเอล และจับผู้คนเป็นตัวประกัน ขณะที่อิสราเอลตอบโต้ด้วยการส่งเครื่องบินรบถล่มฉนวนกาซา ส่งผลให้บ้านเรือน มัสยิด และบ้านพักของเจ้าหน้าที่ของกลุ่มฮามาสได้รับความเสียหายอย่างหนัก

สถานการณ์ดังกล่าวยังส่งผลให้ราคาน้ำมัน WTI พุ่งขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาว่า อิหร่านซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์โจมตีอิสราเอลจริงหรือไม่ หลังจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของอิหร่านให้การสนับสนุนกลุ่มฮามาสในการวางแผนโจมตีอิสราเอลในครั้งนี้

ทั้งนี้ หากมีการยืนยันว่าอิหร่านเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จริง ก็อาจจะทำให้สหรัฐเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน รวมถึงการห้ามไม่ให้อิหร่านส่งออกน้ำมัน ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโลก

is1

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo