World News

ผู้บริโภคสหรัฐ แห่ฟ้อง ‘เบอร์เกอร์คิง-บริษัทอาหาร’ โฆษณาเกินจริง สินค้าไม่ตรงปก

ปกติแล้วโฆษณาอาหารมักทำให้สินค้าดูใหญ่ ฉ่ำ สด หรือกรอบกว่าความเป็นจริง แต่ผู้บริโภคบางคนถือว่า เรื่องนี้อาจทำให้เกิดการเข้าใจหรือการรับรู้ผิด ๆ ได้ ซึ่งนำไปสู่คดีความมากมายต่อบริษัทอาหารเหล่านั้น

วีโอเอ รายงานว่า เมื่อไม่นานนี้ เบอร์เกอร์คิง เครือข่ายร้านฟาสต์ฟู้ดชื่อดังที่มีสาขาทั่วโลก ตกเป็นจำเลยที่รัฐฟลอริดา เมื่อมีผู้บริโภคจำนวนมากรวมตัวฟ้องร้องว่า โฆษณาของเบอร์เกอร์คิงแสดงให้เห็นว่า วอปเปอร์เบอร์เกอร์ สินค้าขายดีของบริษัท รวมทั้งเบอร์เกอร์แบบอื่น ๆ มีเนื้อมากเกินความเป็นจริง

shutterstock 775758397

ผู้พิพากษารัฐฟลอริดาตัดสินไม่ยกฟ้องในคดีนี้ นั่นหมายความว่ากระบวนการทางกฎหมายจะต้องเดินหน้าต่อไป และแน่นอนว่าเบอร์เกอร์คิงไม่ใช่รายแรก และรายสุดท้ายที่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลในประเด็นนี้

เพอร์กินส์ โคอี้ บริษัทกฎหมายที่เก็บข้อมูลคดีที่มีผู้เสียหายจำนวนมากรวมตัวกันฟ้องร้อง หรือ class action lawsuit ระบุว่า เมื่อปีที่แล้ว มีบริษัทอาหาร และเครื่องดื่มในอเมริกาถูกฟ้องในลักษณะนี้ 214 ครั้ง และปีนี้มีการฟ้องร้องแล้ว 101 ครั้งในช่วง 6 เดือนแรกของปี ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจากปีก่อน ๆ

ขณะที่ ปูจาร์ นาอีร์ แห่งสำนักงานกฎหมายเออร์วน โคเฮน แอนด์ เจสอัป ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัทอาหาร และเครื่องดื่มต่าง ๆ กล่าวว่า class action lawsuit เริ่มมุ่งเป้ามาที่โฆษณาอาหารเมื่อไม่กี่ปีก่อน เริ่มจากการกล่าวหาบริษัทผู้ผลิตมันฝรั่งทอดว่า หลอกลวงผู้บริโภค โดยการใส่มันฝรั่งในถุงน้อยเกินไป แต่คดีส่วนใหญ่ถูกศาลยกฟ้อง

ตั้งแต่ปี 2562  เป็นต้นมา คดีลักษณะนี้หลายร้อยคดีถูกส่งไปให้ศาลพิจารณา ส่วนใหญ่จะเป็นการฟ้องร้องในรัฐนิวยอร์ก แคลิฟอร์เนีย และอิลลินอยส์ ซึ่งผู้พิพากษามีแนวโน้มที่จะไม่ยกฟ้องในรัฐเหล่านั้น

นาอีร์ บอกด้วยว่า บริษัทส่วนใหญ่มักหาทางไกล่เกลี่ยยอมความ เพราะไม่ต้องการเสียเวลา และเสียเงินจ้างทนายขึ้นศาล อย่างเช่นเมื่อต้นปีนี้ “เอแอนด์ดับเบิลยู” (A&W) ตกลงจ่ายค่ายอมความ 15 ล้านดอลลาร์ จากข้อกล่าวหาว่า ติดฉลากบนสินค้าน้ำอัดลมยี่ห้อหนึ่งว่า “ผลิตจากวานิลลา” แต่ที่จริงแล้วใช่กลิ่นสังเคราะห์

shutterstock 1383912662

จอร์แดน ฮัดเจนส์ ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยี บริษัท แดชแทรค ผู้ออกแบบเว็บไซต์สำหรับร้านอาหารต่าง ๆ ให้ความเห็นว่า การที่ผู้บริโภคมีความตระหนักรู้มากขึ้นในด้านสุขภาพ และโภชนาการ คือส่วนหนึ่งที่ทำให้คดีลักษณะนี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการเผยแพร่ภาพโฆษณาเกินจริงเหล่านั้น และการแจ้งให้ผู้ร่วมฟ้องร้องคนอื่น ๆ ได้ทราบ

ในกรณีของเบอร์เกอร์คิง โจทก์ร่วมในหลายรัฐยื่นฟ้องเมื่อปี 2565 ว่า รูปภาพโฆษณา และภาพในเมนูของเบอร์เกอร์คิงนั้น แสดงให้เห็นเบอร์เกอร์ใหญ่กว่าความเป็นจริงราว 35% และมีเนื้อหลายชั้น ซึ่งมากกว่าเบอร์เกอร์ที่พวกตนซื้อจริง ทั้งยังบอกว่า ถ้ารู้ก่อนว่าจะมีขนาดและปริมาณเนื้อแค่นั้นก็จะไม่ซื้อกินอย่างแน่นอน

ทางโฆษกของเบอร์เกอร์คิงออกมาตอบโต้ว่า คำกล่าวหาของบรรดาโจทก์ร่วมนั้นไม่ถูกต้อง และยืนยันว่าชิ้นเนื้อที่เห็นในโฆษณา คือแบบเดียวกับที่ขายให้ลูกค้าตามร้านสาขาทั่วประเทศ

ด้าน เจฟฟ์ แกลลัก อาจารย์แห่งภาควิชาการตลาด มหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอน ระบุว่า คดีของเบอร์เกอร์คิงนี้ อาจทำให้บริษัทอาหารต่าง ๆ ระมัดระวังกับการโฆษณาสินค้าของตนมากขึ้น ซึ่งผลที่ตามมาก็คือ ยอดขายที่ลดลงเมื่อใช้สินค้าจริงมาโฆษณา

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo