World News

‘สตาร์บัคส์’ ธุรกิจล่าสุด ร่วมกระแส ‘ระงับโฆษณา’ บนโซเชียลมีเดีย

“สตาร์บัคส์” กลายเป็นธุรกิจรายล่าสุด ที่ออกมาประกาศระงับการโฆษณาบนแพลตฟอร์มโซเชียล มีเดีย บางแห่ง เพื่อต่อต้านการใช้วาจาที่สร้างความเกลียดชัง หรือ hate speech

เชนกาแฟยักษ์ใหญ่รายนี้ เข้าร่วมกระแสของแบรนด์ระดับโลก อย่าง โคคา โคลา, ไดอาจีโอ, และยูนิลีเวอร์ ที่เมื่อเร็วๆ นี้ เพิ่งถอดโฆษณาออกจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย

star 1

โฆษกสตาร์บัคส์ ระบุว่า การ “หยุดพัก” บนโซเชียลมีเดียในครั้งนี้ จะไม่รวมถึงแพลตฟอร์ม “ยูทูบ” ในเครือกูเกิล แต่อย่างใด

“เราเชื่อมั่นในการนำชุมชนมาอยู่ร่วมกัน ทั้งในแบบส่วนตัว และบนโลกออนไลน์ โดยเราจะดำเนินการหารือเป็นการภายใน และกับพันธมิตรด้านสื่อ รวมถึง องค์กรด้านสิทธิพลเรือนต่างๆ เพื่อยุติการแพร่กระจาย hate speech” แถลงการณ์สตาร์บัคส์ ระบุ

ท่าทีข้างต้นมีขึ้นเพียง 1 วัน หลังจากที่ “โคคา โคลา” ยักษ์ใหญ่แห่งอุตสาหกรรมเครื่องดื่มโลก ออกมาเรียกร้องถึง “ความรับผิดชอบ” ที่มากขึ้นกว่าเดิมจากบริษัทสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ

โคคา โคลา ระบุว่า บริษัทจะระงับการโฆษณาบนแพลตฟอร์มโซเชียล มีเดียทั่วโลก ขณะที่ยูนิลีเวอร์ ยักษ์ใหญ่ด้านสินค้าอุปโภคบริโภค ระบุว่า จะระงับการโฆษณาบนทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม ในสหรัฐ อย่างน้อยตลอดทั้งปีนี้

การเคลื่อนไหวของธุรกิจเหล่านี้ เกิดขึ้นหลังจากเกิดข้อถกเถียงอย่างมาก ถึงแนวทางที่เฟซบุ๊ก บริษัทสื่อสังคมออนไลน์ชั้นนำ ใช้ควบคุมคอนเทนท์บนแพลตฟอร์มของตัวเอง ที่หลายฝ่ายมองว่า ปล่อยวางจนเกินไป และยังเกิดขึ้นหลังเฟซบุ๊กออกมาประกาศว่า จะเริ่มต้นติดป้ายเตือนต่อโพสต์ที่อาจเป็นอันตราย หรือชี้นำให้เกิดความเข้าใจผิด

มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอ และผู้ร่วมก่อตั้งเฟซบุ๊ก ยังบอกว่า เฟซบุ๊กจะแบนโฆษณา ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการระบุอย่างเจาะจงถึงเชื้อชาติ สีผิว แหล่งที่มา เพศ และการลี้ภัย ว่าเป็นภัยคุกคามต่อผู้อื่น

อย่างไรก็ดี บรรดาองค์กรที่รณรงค์ต่อต้านการเกลียดชังในโครงการ #StopHateforProfit ซึ่งกล่าวหาเฟซบุ๊กว่าไม่มีการเคลื่อนไหวที่มากพอ ในการยับยั้ง hate speech และการเผยแพร่ข้อมูลผิดๆ ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยเท่านี้ ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไรเลย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo