“ARE” ระบุ “เอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ต้องลดการผลิตโปรตีนจากสัตว์ และเปลี่ยนไปบริโภคผลิตภัณฑ์จากพืช หรือโปรตีนทางเลือกอื่น ๆ หากต้องการลดโลกร้อน
ศูนย์วิจัยเอเชีย รีเสิร์ช แอนด์ เอนเกจเมนต์ (Asia Research and Engagement) หรือ ARE ของสิงคโปร์ เปิดเผยว่า การลดการบริโภคเนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์จากนม อาจเป็นกุญแจสำคัญ ในการรับมือกับวิกฤติสภาพภูมิอากาศ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
รายงานของ ARE ระบุว่า หากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต้องการลดโลกร้อน ทั้งภูมิภาคจะต้องลดการผลิตโปรตีนจากสัตว์ลง และเปลี่ยนไปบริโภคผลิตภัณฑ์จากพืช หรือโปรตีนทางเลือกอื่น ๆ แทน ภายในปี 2573
ทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จะต้องมีสัดส่วนการผลิตโปรตีนทางเลือก มากกว่าครึ่งหนึ่งของสัดส่วนการผลิตโปรตีนทั้งหมด ภายในปี 2603 เพื่อลดโลกร้อน
การบรรลุเป้าหมายนี้จำเป็นต้องมีเม็ดเงินลงทุน และความพยายามอย่างต่อเนื่องจากอุตสาหกรรมอาหาร นักลงทุน และธนาคารต่าง ๆ ในเอเชีย
สำนักข่าวซีเอ็นบีซี รายงานว่า การเลี้ยงปศุสัตว์ในพื้นที่ขนาดใหญ่ เพื่อการบริโภคเนื้อสัตว์นั้น เป็นที่ทราบกันว่าเป็นแหล่งปล่อยก๊าซคาร์บอนในปริมาณมาก รวมถึงเป็นสาเหตุหลักของการตัดไม้ทำลายป่า และการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งเกิดขึ้นเพราะผู้ผลิตแผ้วถางป่ าเพื่อปลูกพืชอาหารสัตว์ เช่น กากถั่วเหลือง หรือการสร้างฟาร์มแห่งใหม่
รายงานชี้ว่า การผลิตเนื้อสัตว์สร้างมลพิษทางสิ่งแวดล้อม มากกว่าการเพาะปลูกพืชทั้งหมดรวมกัน เนื่องจากการเลี้ยงปศุสัตว์นั้น ใช้ทรัพยากรสูงกว่ามาก และใช้ที่ดินมากขึ้น จำนวนสัตว์ที่เลี้ยงเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งการใช้น้ำ และการใช้ยาปฏิชีวนะที่เพิ่มขึ้น
แม้ว่าประเด็นนี้ จะเป็นปัญหาระดับโลก แต่เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับประเทศต่าง ๆ ในเอเชีย เนื่องจากเอเชียเป็นแหล่งบริโภคโปรตีนจากเนื้อสัตว์มากกว่าครึ่งหนึ่งของโลก รวมทั้งปศุสัตว์บก และอาหารทะเล
นอกจากนี้ ภูมิภาคเอเชียยังเป็นพื้นที่ที่มีอัตราการเติบโตของประชากรรวดเร็วที่สุด ซึ่งยิ่งเพิ่มการบริโภคเนื้อสัตว์
รายงาน ยังระบุว่า ในปี 2563 มาเลเซีย และเวียดนาม บริโภคโปรตีนทั้งจากเนื้อสัตว์ และอาหารทะเลอยู่ที่ระหว่าง 8.9-12.3 กิโลกรัมต่อคน ซึ่งสูงกว่าที่คณะกรรมการอีเอที-แลนเซท (EAT-Lancet Commission) แนะนำที่ระดับ 5.1 กิโลกรัมต่อคน
ทางด้านนายเมิร์ต กอสเคอร์ กรรมการผู้จัดการของสถาบันอาหารดีแห่งเอเชียแปซิฟิก (Good Food Institute Asia Pacific) ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัย ที่มุ่งเน้นเรื่องโปรตีนทางเลือก กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นปัญหาที่บวกทวีคูณไปอีก เพราะถั่วเหลืองส่วนใหญ่ที่ใช้เลี้ยงปศุสัตว์ในเอเชียนั้น นำเข้ามาจากบราซิล อาร์เจนตินา และปารากวัย ซึ่งทำให้การผลิตเนื้อสัตว์ ยิ่งเพิ่มผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยรวม
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘เคเอฟซี’ ชิมลางขาย ‘นักเก็ตจากพืช’ ชิงตลาดเนื้อสัตว์ทางเลือกในจีน
- ‘สหรัฐ’ ไฟเขียวขาย ‘เนื้อไก่ห้องทดลอง’ เปิดตลาดใหม่ผู้ผลิตอเมริกัน
- กระแสรักสุขภาพ หนุน แพลนท์ เบส ‘อาหารจากพืช’ เทรนด์มาแรงปี 2566