เกิดเหตุหญิงอเมริกันเสียชีวิต หลังดื่มน้ำเกือบ 2 ลิตร ในเวลา 20 นาที แพทย์ชี้ เกิดภาวะ “น้ำเป็นพิษ” เหตุบริโภคน้ำมากเกินไป ในช่วงเวลาสั้น ๆ
เว็บไซต์ นิวยอร์ก โพสต์ รายงานว่า แอชลีย์ ซัมเมอร์ วัย 35 ปี ชาวรัฐอินดีแอนา สหรัฐ เสียชีวิตลง หลังจากที่เธอดื่มน้ำไปเกือบ 2 ลิตร ในเวลาเพียงแค่ 20 นาที ก่อนที่จะหมดสติลง และไม่ฟื้นมาอีกเลย
รายงานข่าวระบุว่า ซัมเมอร์ ได้เดินทางไปท่องเที่ยวกับสามี และบุตรสาว 2 คน ในช่วงสุดสัปดาห์วันชาติสหรัฐ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งในวันสุดท้ายของการท่องเที่ยวนั้น เธอบอกว่า รู้สึกกระหายน้ำอย่างมาก
เดวอน มิลเลอร์ น้องชายของเธอเล่าว่า มีคนบอกว่า เธอดื่มน้ำสี่ขวดใน 20 นาที โดยแต่ละขวด มีน้ำโดยเฉลี่ยประมาณครึ่งลิตร ซึ่งหมายความว่า เธอดื่มน้ำไปเกือบ 2 ลิตร ในช่วงเวลา 20 นาที ซึ่งเป็นปริมาณน้ำ ที่ตามปกติแล้วจะควรจะดื่มตลอดทั้งวัน
หลังเดินทางถึงบ้าน ซัมเมอร์ก็เป็นลมหมดสติอยู่ในโรงรถ ก่อนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และเธอไม่เคยฟื้นขึ้นมาอีกเลย โดยเธอมีอาการสมองบวม และไม่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ก่อนที่แพทย์จะแจ้งต่อครอบครัวเธอในเวลาต่อมาว่า เธอเสียชีวิตจากภาวะน้ำเป็นพิษ
มิลเลอร์ บอกว่า เป็นเรื่องน่าตกใจสำหรับพวกเขาทุกคน เมื่อแพทย์เริ่มพูดถึงความเป็นพิษของน้ำ
ภาวะน้ำเป็นพิษ หรือที่เรียกว่า ภาวะพิษจากน้ำ เกิดขึ้นเมื่อมีการบริโภคน้ำมากเกินไปในช่วงเวลาสั้น ๆ หรือหากไตกักเก็บน้ำไว้มากเกินไป เนื่องจากสภาวะสุขภาพพื้นฐาน โดยอาการของภาวะน้ำเป็นพิษ ได้แก่ รู้สึกไม่สบาย เป็นตะคริวที่กล้ามเนื้อ ปวด คลื่นไส้ และปวดศีรษะ
ดร. เบลค โฟรเบิร์ก นักพิษวิทยา เปิดเผยว่า สาเหตุการตายที่หาได้ยากนี้ มักเกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อน หรือหากมีคนทำงานนอกบ้าน หรือออกกำลังกายบ่อย ๆ
“มีบางสิ่งที่ทำให้บางคนมีความเสี่ยงมากขึ้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นโดยรวมคือ คุณมีน้ำมากเกินไป และมีโซเดียมในร่างกายไม่เพียงพอ”
ทั้งนี้ ซัมเมอร์สเป็นผู้บริจาคอวัยวะ โดยหลังการเสียชีวิต หัวใจ ตับ ปอด ไต และเนื้อเยื่อกระดูกบางส่วนของเธอ สามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้อีก 5 ชีวิต
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- รักต่างวัย! สาวอินโดฯ วัย 41 แต่งหนุ่ม 16 ลูกชายเพื่อน ลั่นรักแท้จะอยู่ตลอดไป
- ฮอตมาก! จีนแห่ชม ‘แองเจลา’ หมีหมา มาดเนียนเหมือนคนปลอมตัวมา
- นายกฯ แคนาดา ‘จัสติน ทรูโด’ หย่าภริยา ปิดฉากชีวิตคู่ 18 ปี
