นักวิชาการต่างชาติมองการเมืองไทย ชี้ อาจต้องตกอยู่ท่ามกลางความวุ่นวายอย่างยืดเยื้อ แม้จะเลือกผู้นำคนใหม่ และมีรัฐบาลชุดใหม่แล้วก็ตาม หลังพรรคทึ่ชนะการเลือกตั้งอย่าง “ก้าวไกล” โดนกันออกไป ไม่ให้ร่วมจัดตั้งรัฐบาล
สำนักข่าวซีเอ็นเอ รายงานอ้างการแสดงความเห็นของดร.เควิน ฮิววิสัน ศาสตราจารย์เกียรติคุณ สาขาเอเชียศึกษา มหาวิทยาลัยนอร์ธ แคโรไลนา แห่ง แชปเพิล ฮิลล์ ของสหรัฐ ที่เชื่อว่า การเมืองไทยจะมีจุดพลิกผันอีกมาก
ไทยอยู่ในสถานการณ์ที่มืดมนอย่างมาก และเป็นเรื่องที่ไทยไม่เคยเจอมาก่อน มีการทำข้อตกลงลับ ๆ กันจำนวนมาก โดยที่ไม่สนใจประชาชน
“ผมคิดว่าสถานการณ์ดังกล่าว อาจทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และประชาธิปไตยของไทย ตกอยู่ในอันตราย เพราะหากการเลือกตั้งไม่สำคัญ และการตัดสินใจทั้งหมดว่า ใครจะได้เป็นรัฐบาล จะถูกตัดสินผ่านการพูดคุยกันอย่างลับ ๆ และจากผู้นำกลุ่มเล็ก ๆ ก็จะเป็นการเปิดทางให้เกิดการเมืองที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง”
“เป็นเรื่องยากมากที่จะเห็นว่าแนวร่วมใหม่จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร หรือการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยในขณะนี้จะเป็นอย่างไร” ดร. ฮิววิสัน ผู้ซึ่งสนใจงานวิจัยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศไทย ระบุ
เขาบอกด้วยว่า มีความไม่พอใจอย่างมากในหมู่ผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกล ท่ามกลางการจับตาของบรรดาผู้สังเกตการณ์ว่า พรรคเพื่อไทยจะร่วมกับพรรคสนับสนุนทหารของรัฐบาลชุดที่แล้วหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้น ก็คาดว่า จะเกิดความไม่สงบขึ้นค่อนข้างแน่นอน
แม้นักวิชาการรายนี้ จะระบุว่า มีหลายประเทศที่พรรคการเมือง ซึ่งได้คะแนนมาเป็นอันดับ 1 ในการเลือกตั้ง ไม่จำเป็นจะต้องเป็นผู้นำในรัฐบาลผสม ไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใด แต่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวไทยจำนวนมากรู้สึกว่า พวกเขา “ถูกหลอกลวง” และเห็นว่า “การลงคะแนนเสียงของพวกเขาไม่สำคัญ”
“ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาสำหรับพรรคการเมืองต่าง ๆ ในอนาคต แต่ก็ค่อนข้างชัดเจนว่า พรรคเพื่อไทยไม่มีทางเลือกมากนัก พวกเขาจำเป็นต้องแยกตัวออกจากพรรคก้าวไกล หากต้องการที่จะได้ตั้งรัฐบาลอีกครั้ง เพราะว่ามี วุฒิสมาชิก ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งขวางทางอยู่”
ดร. ฮิววิสัน มองว่า ประชาธิปไตยในประเทศไทยขณะนี้อยู่ในจุดที่ยากลำบาก แต่ก็เป็นจุดที่ถูกออกแบบมา จากระบอบการปกครองก่อนหน้านี้
“ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เรื่องนี้เกิดขึ้นมาเพื่อหยุดพรรคก้าวไกลไม่ให้เข้ามามีอำนาจ แม้ว่าพวกเขาจะได้รับความนิยมก็ตาม”
“ศาลได้เลื่อนการตัดสิน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่คิดว่าน่าจะง่ายพอสมควรสำหรับพวกเขา ในการตัดสินใจว่าควรจะมีการลงคะแนนครั้งที่สองหรือไม่” เขากล่าวเสริม
“ดังนั้น สิ่งที่เราวางไว้ในตอนนี้ ในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้าเป็นอย่างน้อย คือการเจรจาลับๆ ล่อๆ มากขึ้น และอาจมีความไม่พอใจมากขึ้นกับวิธีที่กระบวนการดำเนินไป และยุ่งเหยิงไปจนกว่าจะมีอะไรชัดเจน ขณะนี้แทบไม่มีอะไรชัดเจนว่าการเมืองไทยจะไปทางไหน”
ประเทศไทยจะเป็นอย่างไรต่อไป
ดร.ฮิววิสัน ระบุว่า โอกาสสำหรับไทย ที่จะจัดตั้งรัฐบาลที่มีเสถียรภาพได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับว่า การจับมือเป็นพันธมิตรออกมาในรูปแบบใด
หากพรรคก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน และถ้าไม่มีพรรคที่สนับสนุนมาอยู่ด้วยนั้น ก็เป็นไปได้ว่า ฝ่ายค้านจะไม่สามารถจับมือกันอย่างแข็งแกร่งได้ ไทยก็จะได้รัฐบาลที่ค่อนข้างมีเสถียรภาพ และฝ่ายค้านที่แตกแยก
“ดังนั้น พรรคเพื่อไทย จึงมีโอกาสที่จะตั้งรัฐบาลที่มีเสถียรภาพขึ้นมาได้ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่า ท้ายที่สุดแล้ว ส่วนประกอบของรัฐบาลผสมจะออกมาในแบบใด”
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ไพศาล’ วิเคราะห์ การเมืองฉาก 2 ‘เพื่อไทย’ น่ากลัวกว่า ‘ก้าวไกล’
- “ประเสริฐ” มั่นใจจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ ขอเสียงโหวตเลือกนายกฯ เรียบร้อยแล้ว
- ‘ปธ.วันนอร์’ แจงยิบเลื่อนประชุมรัฐสภา ยันไร้เบื้องหลัง-ไม่มีทำเอื้อฝ่ายใด