World News

ไร้ปาฏิหาริย์ !พบเศษซากใต้มหาสมุทร 5 ชีวิต สำรวจ ‘เรือไททานิค’ เสียชีวิตทั้งหมด

ไร้ปาฏิหาริย์! เจ้าหน้าที่หน่วยยามฝั่งสหรัฐ ยืนยัน 5 คนในยานดำน้ำไททัน สำรวจซากเรือไททานิค เสียชีวิตทั้งหมด หลังพบเศษซากยานดำน้ำ กระจัดกระจายใต้ท้องมหาสมุทร

จากเหตุการณ์ค้นหายานดำน้ำไททัน พร้อมคนในยาน 5 คน ที่สูญหายระหว่างดำลงไปสำรวจซากเรือไททานิค ลึกลงไปในมหาสมุทรแอตแลนติกตอนเหนือ 3,800 เมตร นอกชายฝั่งรัฐนิวฟันด์แลนด์ ประเทศแคนาดา ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา (18 มิ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่นนั้น

เรือไททานิค

ล่าสุด โฆษกหน่วยยามฝั่งสหรัฐ แถลงช่วงบ่ายวานนี้ (22 มิ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่นว่า ยืนยันว่า ยานยนต์สำรวจใต้น้ำด้วยเครื่องมือควบคุมระยะไกล หรือ ROV ตรวจพบเศษซากของยานดำน้ำอยู่ใต้พื้นทะเล ห่างจากซากเรือไททานิคราว 487 เมตร รวมถึงซากของกรวยแหลมด้านหน้ายานดำน้ำ ชิ้นส่วนห้องยาน และกองเศษซากขนาดใหญ่  โดยเชื่อว่าเป็นผลจากการระเบิดอย่างรุนแรงของยานดำน้ำ และว่า คนในยาน 5 คนเสียชีวิตแล้วทั้งหมด

อย่างไรก็ดี โฆษกหน่วยยามฝั่งสหรัฐ ไม่ยืนยันว่า จะสามารถระบุตำแหน่งหรือค้นหาร่างผู้เสียชีวิตได้ จากสภาพความยากลำบากใต้มหาสมุทร และว่าเสียงเคาะ หรือเสียงทุบที่ได้ยินระหว่างปฏิบัติการค้นหายานดำน้ำตั้งแต่วันพุธ (21 มิ.ย.) ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการระเบิดของยานดำน้ำ

ขณะที่ ครอบครัวของคนในยานไททัน ทั้งนายฮาร์มิช ฮาร์ดิ้ง มหาเศรษฐีชาวอังกฤษ นายชาห์ซาดา ดาวูด มหาเศรษฐีนักธุรกิจชาวปากีสถาน และนายสุเลมานซึ่งเป็นลูกชาย ต่างออกมาแสดงความเสียใจต่อการจากไปของทั้ง 3 คน และขอบคุณทีมค้นหาที่ทำงานอย่างหนักจนพบซากยานในที่สุด

เช่นเดียวกับบุตรสาวของ นายพอล-อองรี นาร์โกเลต์ นักสมุทรศาสตร์ชาวฝรั่งเศส วัย 77 ปีชาวฝรั่งเศส หนึ่งในเจ้าหน้าที่ในยานดำน้ำไททัน บอกว่าถึงจะเสียใจ แต่อย่างน้อยเธอก็รู้สึกสบายใจเมื่อรู้ว่า พ่อของเธออยู่ในสถานที่ที่เขารักที่สุด

ทางด้าน บริษัทโอเชียนเกต เอ็กซ์เพดิชันส์ ผู้ให้บริการการเดินทางโดยเรือดำน้ำ เพื่อสำรวจซากไททานิก แถลงว่า “คนเหล่านี้คือนักสำรวจที่แท้จริง ผู้ซึ่งมีจิตวิญญาณร่วมกันในการผจญภัย และมีแรงผลักดันที่ล้ำลึกต่อการสำรวจและปกป้องมหาสมุทร เราขอส่งความรู้สึกจากใจไปยังพวกเขาทั้ง 5 คนและสมาชิกครอบครัวทุกคนของพวกเขาในช่วงเวลาอันเศร้าสลดนี้”

เรือไททานิค

ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนเชื่อว่า ยานอาจจะเผชิญเหตุขัดข้องทางกลไก หรือด้านเทคนิคอย่างรุนแรง จนเกิดระเบิดใต้ทะเลตั้งแต่วันแรกที่ดำลงไปใต้น้ำแล้ว หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่จะยังคงตรวจสอบบริเวณจุดที่พบซากยานไททันต่อไป แต่ยอมรับว่าการวิเคราะห์ และหาสาเหตุของโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องยากมาก และอาจต้องใช้เวลา เนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นในพื้นที่สุดห่างไกลของโลก

ทั้งนี้ ยานดำน้ำไททัน ของบริษัทโอเชียนเกต เอ็กซ์พิดิชั่นส์ ในสหรัฐ เริ่มดำลงใต้น้ำในเวลา 08.00 น. ในวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งจะใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง แต่ขาดการติดต่อกับเรือสนับสนุน  ตามข้อมูลของบริษัท ยานดำน้ำลำนี้มีออกซิเจนเพียงพอใช้ในเรือ 96 ชั่วโมง ซึ่งหมายความว่า ออกซิเจนจะหมดลงในช่วงเช้าวันพฤหัสบดี

หลายหน่วยงานได้ร่วมมือกันค้นหาเรือดำน้ำไททัน โดยทีมกู้ชีพได้ส่งเรือ เครื่องบิน และอุปกรณ์อื่น ๆ ไปยังจุดที่เชื่อว่า เป็นบริเวณที่เรือหายไป ก่อนที่หน่วยยามชายฝั่งสหรัฐ จะเปิดเผยวานนี้ว่า หุ่นยนต์สำรวจใต้ทะเลที่เรือค้นหาของแคนาดาส่งออกมาเดินทางถึงพื้นก้นทะเลแล้ว ขณะที่ สถาบันวิจัยแห่งหนึ่งของฝรั่งเศส เปิดเผยด้วยว่า หุ่นยนต์ดำน้ำลึกตัวหนึ่งที่ติดกล้อง ไฟ และแขน เข้าร่วมปฏิบัติการค้นหานี้ด้วย

ปฏิบัติการค้นหาดังกล่าว มีอุปสรรคมากมายที่ทีมงานพยายามฟันฝ่าให้ได้ ตั้งแต่การชี้จุดของลำเรือ ไปจนถึงความพยายามไปให้ถึงลำเรือให้ได้ พร้อมอุปกรณ์กู้ชีพ การนำตัวเรือมาสู่ผิวน้ำ ถ้าสภาพเรือยังปกติดีอยู่ โดยทั้งหมดนั้นต้องเกิดขึ้นก่อนออกซิเจนในเรือจะหมดลง

เรือไททานิค

ดร.ร็อบ ลาร์เตอร์ นักฟิสิกส์ธรณีวิทยาทางทะเลจาก British Antarctic Survey ระบุว่า ความยากลำบากในการค้นหาสิ่งที่มีขนาดเท่า ๆ กับเรือดำน้ำไททัน ซึ่งยาว 6.5 เมตร และสูงเกือบ 3 เมตรนั้น อยู่ที่ความเป็นจริงว่า ปฏิบัติการนี้เดินหน้าภายใต้ “สภาพบรรยากาศที่มืดสนิท” จนทำให้คณะค้นหาพลาดสิ่งที่มองหาอยู่ไปได้ แม้จะอยู่ใกล้เพียงไม่กี่ฟุตก็ตาม ซึ่งทำให้งานนี้เป็นเหมือน “การงมเข็มในมหาสมุทร”

ส่วนนายโดนัลด์ เมอร์ฟี นักสมุทรศาสตร์จากทีม International Ice Patrol ของหน่วยยามชายฝั่งสหรัฐ ระบุว่า พื้นที่มหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ที่เรือดำน้ำไททันหายไปนั้น เป็นบริเวณที่มักมีหมอก และพายุปกคลุมได้ง่าย ๆ ทำให้ภารกิจค้นหา และกู้ชีพเป็นเรื่องที่มีความท้าทายอย่างยิ่ง ผู้โดยสารในเรือก็มีโอกาสจะตกอยู่ในสภาพอากาศเย็นจัดจนเยือกแข็งด้วย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

 

Avatar photo