ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต้ ผู้นฟิลิปปินส์อนุมัติกฎหมายใหม่ เพิ่มผลประโยชน์ให้กับผู้หญิงทำงานที่ต้องคลอดบุตร การเคลื่อนไหวที่หวังจะดึงผู้หญิงเข้าสู่วงจรการทำงานในประเทศมากขึ้น หลังฟิลิปปินส์ติดอันดับมีผู้หญิงทำงานน้อยสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นางริซา ฮอนติเวรอส วุฒิสมาชิกฟิลิปปินส์ แถลงในวันนี้ (21 ก.พ.)ว่า กฎหมายใหม่จะเพิ่มวันลาคลอดที่ได้รับค่าจ้างเป็น 105 วัน จากเดิมที่ 60 วัน และจะอนุญาตให้บิดาลางานเพื่อดูแลมารดา และบุตรได้ 7 วัน โดยที่ได้รับค่าจ้างเช่นกัน ส่วนหญิงสาวที่เป็นแม่เลี้ยงเดียว จะได้เพิ่มอีก 15 วัน
“วันนี้ถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่สำหรับผู้หญิง และครอบครัวของพวกเธอ แม้อาจจะมีการต่อสู้ และถกเถียงกันอีกมากในอนาคต แต่วันนี้ ผู้หญิงคือผู้ชนะ”
ทั้งนี้ การจูงใจให้ผู้หญิงออกมาทำงานท และทำงานต่อไปหลังจากมีครอบครัว และมีบุตร เป็นหนึ่งในแผนการริ่เริ่มอันดับต้นๆ ของนายเออร์เนสโต เปอร์เนีย รัฐมนตรีวางแผนเศรษฐกิจฟิลิปปินส์ ที่จะเพิ่มจำนวนแรงงานในประเทศ ที่มีจำนวนลดลงเมื่อปีที่แล้ว
ก่อนหน้านี้ ธนาคารโลกประเมินว่า มากกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรหญิงในฟิลิปปินส์ ไม่ได้อยู่ในตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นอัตราส่วนสูงที่สุดในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ขณะที่สถาบันแมคคินซี โกลบอล ชี้ว่า แม้ฟิลิปปินส์จะมีผู้หญิงอยู่ในตำแหน่งผู้นำระดับสูงทั้งด้านการเมือง และธุรกิจเป็นอันดับต้นๆ ของเอเชีย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงที่มาจากครอบครัวฐานะดี และมีความสามารถจ่ายค่าเลี้ยงดูบุตรที่ค่อนข้างสูงได้
บริษัทที่ปรึกษาสหรัฐรายนี้ ประเมินด้วยว่า การมีผู้หญิงที่มีฐานะในระดับทั่วไป และมีระดับการศึกษาน้อยกว่านั้นเข้าสู่ตลาดแรงงาน จะทำให้เศรษฐกิจฟิลิปปินส์มีมูลค่าเพิ่มขึ้นอีก 40,000 ล้านดอลลาร์ ภายในปี 2568
