ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท (WTI) ปิดซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ของสหรัฐ เมื่อวานนี้ (16 ก.พ.) ตามเวลาท้องถิ่น ลดลงเล็กน้อย ท่ามกลางแรงกดดันจากสต็อกน้ำมันดิบที่สูงเกินคาด รวมทั้งความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจสหรัฐ
ราคาน้ำมันดิบ WTI กำหนดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 10 เซนต์ หรือ 0.13% ปิดที่ 78.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) กำหนดส่งมอบเดือนเมษายน ราคาลดลง 24 เซนต์ หรือ 0.28% ปิดที่ 85.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดยังคงถูกกดดันจากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่พุ่งขึ้น 16.3 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 471.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564
นักวิเคราะห์จากบริษัท OANDA ชี้ว่า การซื้อขายในตลาดน้ำมันเป็นไปอย่างผันผวน โดยตลาดถูกกดดันจากสต็อกน้ำมันดิบที่สูงเกินคาด ประกอบกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจสหรัฐ และทั่วโลก
แต่ในขณะเดียวกัน ก็ได้ปัจจัยหนุนจากข่าวรัสเซียเตรียมปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 500,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนมีนาคม และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนซึ่งจะช่วยหนุนความต้องการใช้น้ำมัน
ทั้งนี้ สำนักงานพลังงานสากล (ไออีเอ) เชื่อมั่นว่า การเปิดประเทศของจีนแ ละการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนจะเป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นความต้องการใช้น้ำมัน โดยคาดการณ์ว่า ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2566 มาอยู่ที่ระดับ 101.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘เอสแอนด์พี โกลบอล’ คาด ‘ราคา น้ำมัน’ ปี 66 พุ่ง 121 ดอลลาร์ หากจีนเปิดประเทศเต็มรูปแบบ
- ‘โกลด์แมน แซคส์’ คาด ไตรมาส 3 ราคา น้ำมันพุ่ง 110 ดอลลาร์ อานิสงส์จีนเปิดประเทศ
- ‘ราคา น้ำมัน WTI’ พุ่งแตะ 77 ดอลล์ รับคาดการณ์เศรษฐกิจโลกฟื้นตัว หนุนดีมานด์
