เศรษฐกิจจีน ปี 2565 ร่วงแรง หลังชะลอตัวลงอย่างมากในไตรมาส 4 ผลจากมาตรการควบคุมโควิดอย่างเข้มงวด ฉุดจีดีพีตลอดทั้งปีขยายตัวแค่ 3% ย่ำแย่สุดครั้งหนึ่งในรอบเกือบ 50 ปี สร้างแรงกดดันให้รัฐบาล ต้องหามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นในปีนี้
วันนี้ (17 ม.ค.) สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (เอ็นบีเอส) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปี 2565 ของจีน ขยายตัว 3% ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ว่าจะเติบโตราว 2.8% แต่ยังเป็นการชะลอตัวลงอย่างมากเมื่อเทียบกับปี 2564 ที่ขยายตัว 8.4% ทั้งยังต่ำกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ที่ราว 5.5% อย่างมาก
ส่วนในไตรมาส 4 ปี 2565 จีดีพีจีนขยายตัว 2.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.8%
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ในปี 2565 ที่ผ่านมา ทางการจีนได้สั่งล็อกดาวน์นครเซี่ยงไฮ้เป็นเวลานานถึง 2 เดือนเพื่อสกัดการระบาดของโรคโควิด-19 ภายใต้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเดินทางและกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วประเทศ
กระทั่งในช่วงต้นเดือนธันวาคม 2565 จีนได้ตัดสินใจยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์อย่างฉับพลัน แม้ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศจะพุ่งขึ้นอย่างมากก็ตาม ซึ่งการยกเลิกนโยบายดังกล่าว ทำให้ประชาชนต่างก็วางแผนที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้
ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจีนอาจจะต้องใช้เวลาอีก 2-3 เดือนจึงจะฟื้นตัว
รายงานระบุว่า บรรดาผู้นำของจีนเตรียมประกาศเป้าหมายการเติบโตของตัวเลขจีดีพี ปี 2566 ในเดือนมีนาคมนี้ ในการประชุมประจำปีของรัฐสภาจีน ซึ่งจะเป็นการประชุมครั้งแรกนับตั้งแต่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้รับฉันทามติให้บริหารประเทศเป็นสมัยที่ 3 เมื่อครั้งที่มีการประชุมใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในเดือนตุลาคม 2565
นักวิเคราะห์จากรอยเตอร์โพล ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ว่า ในปี 2566 มีแนวโน้มที่เศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวขึ้นมา อยู่ในระดับ 4.9% จากการที่บรรดาผู้นำประเทศ เดินหน้าจัดการปัญหาหลัก ๆ ที่ฉุดการเติบโต อาทิ นโยบายโควิดเป็นศูนย์ และขาลงอย่างรุนแรงของภาคอสังหาริมทรัพย์
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ล็อกดาวน์-คุมเข้มโควิด พ่นพิษ! ต้นเหตุ ‘เศรษฐกิจจีน’ ไตรมาส 3 โตต่ำสุดรอบหลายสิบปี
- ‘มูดี้ส์’ ชี้นโยบายจีน ‘โควิดเป็นศูนย์’ ทำ ‘วิกฤติซัพพลายเชน’ ยืดเยื้อ
- สี จิ้นผิง โชว์แกร่ง ‘เศรษฐกิจจีน’ ผงาดครั้งประวัติศาสตร์!!