ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท (WTI) ปิดซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ของสหรัฐ เมื่อวานนี้ (12 ม.ค.) ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้ออ่อนแรงลง ซึ่งคาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ ชะลอขึ้นดอกเบี้ย
ตลาดยังได้แรงบวกจากความหวังที่ว่า การเปิดประเทศของจีนจะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจ และทำให้ความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น
ราคาน้ำมันดิบ WTI กำหนดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 98 เซนต์ หรือ 1.27% ปิดที่ 78.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) กำหนดส่งมอบเดือนมีนาคม ราคาเพิ่มขึ้น 1.36 ดอลลาร์ หรือ 1.65% ปิดที่ 84.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 6.5% ในเดือนธันวาคมเมื่อเทียบรายปี ชะลอตัวลงจากเดือนพฤศจิกายนที่เพิ่มขึ้น 7.1% และเป็นการปรับตัวขึ้นน้อยที่สุด นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 และเมื่อเทียบรายเดือน ปรับตัวลง 0.1% ลดลงครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปีครึ่ง
การชะลอตัวของดัชนีซีพีไอบ่งชี้ว่า เงินเฟ้อสหรัฐผ่านจุดสูงสุดแล้ว และคาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอขึ้นดอกเบี้ย โดยขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนักมากกว่า 90% ในการคาดการณ์ว่า เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในการประชุมวันที่ 31 มกราคม-1 กุมภาพันธ์นี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ให้น้ำหนัก 76.7%
ตลาดยังได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า การเปิดประเทศของจีนจะช่วยกระตุ้นความต้องการใช้น้ำมัน และการอ่อนค่าของดอลลาร์ยังช่วยให้น้ำมันดิบ ซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น ถูกลง และน่าดึงดูดใจ สำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘เอสแอนด์พี โกลบอล’ คาด ‘ราคา น้ำมัน’ ปี 66 พุ่ง 121 ดอลลาร์ หากจีนเปิดประเทศเต็มรูปแบบ
- ‘โกลด์แมน แซคส์’ คาด ไตรมาส 3 ราคา น้ำมันพุ่ง 110 ดอลลาร์ อานิสงส์จีนเปิดประเทศ
- ‘ราคา น้ำมัน WTI’ พุ่งแตะ 77 ดอลล์ รับคาดการณ์เศรษฐกิจโลกฟื้นตัว หนุนดีมานด์