Stock

‘เถ้าแก่น้อย’ ราคาหุ้นชนเพดาน หลังกำไรนิวไฮในรอบ 2 ปี

หุ้น TKN หรือ บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) เจ้าของขนมสาหร่ายชื่อดัง มีเรื่องราวมาให้นักลงทุนได้ตื่นเต้นกันอีกแล้ว โดยเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 หุ้น TKN ปรับตัวขึ้นแรง จนไปชนราคาสูงสุด (Ceiling) ที่ 9.35 บาท เพิ่มขึ้น 29.86% หรือ 2.15 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขายตลอดวันที่ 597 ล้านบาท

ว่ากันว่าสาเหตุที่ดันราคาหุ้นวิ่งหน้าตั้ง เป็นเพราะการประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/65 ที่บริษัทมีกำไรมากกว่าตลาดคาดการณ์ โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 180 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 835% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ถือเป็นการทำกำไรสูงสุด (New High) ในรอบ 2 ปี นับตั้งแต่เกิดโควิด-19

ในส่วนของรายได้จากการขายอยู่ที่ 1,208.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

เถ้าแก่น้อย

4 ปัจจัยหลักหนุน “เถ้าแก่น้อย” โต

1. การมีผลิตภัณฑ์สาหร่ายที่หลากหลายทั้งแบบ ทอด อบ ย่าง (Product Mixed) ทำยอดขายเติบโตได้ดี โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์สาหร่ายแบบอบและย่าง ซึ่งเป็นสินค้าที่มีมาร์จินสูง

2. การดำเนินกลยุทธ์ “Go Firm” ปรับองค์กรให้กระชับ (Lean) คล่องตัวและรวดเร็ว เพื่อลดต้นทุน และบริหารจัดการต้นทุนราคาวัตถุดิบได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. ใช้ระบบเครื่องจักรอัตโนมัติเข้ามาทดแทนแรงงาน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ทำต้นทุนสามารถแข่งขันได้

4. รวมโรงงานทั้ง 2 แห่งเข้าด้วยกัน ทำให้ได้รับประโยชน์จากการประหยัดจากขนาด (Economies Of Scale) และอัตราการใช้กำลังการผลิตดีขึ้น

อีกประเด็นคงมาจากการที่ บริษัทประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล จากผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/65 ในอัตราหุ้นละ 0.08 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 7 ธันวาคม 2565

ถือว่าเป็นเซอร์ไพรส์เล็ก ๆ เพราะปกติ TKN จะจ่ายปันผลปีละ 2 ครั้ง แต่ในปีนี้ประกาศจ่ายไปทั้งหมด 3 รอบแล้ว รวมเป็นเงินปันผลทั้งหมด 0.26 บาท

คำถามก็คือ หรือนี่จะเป็นจุดวกกลับให้หุ้น TKN กลับมาวิ่งติดลมบนได้เหมือนช่วงปีแรก ๆ ที่เข้าตลาด

เถ้าแก่น้อย

โดยส่วนตัวแล้วมองว่า คงต้องพิจารณากันให้ดี ๆ เพราะ TKN ได้ชื่อว่า เป็นหุ้นที่สร้างปรากฏการณ์เอาไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ราคาหุ้นที่วิ่งแรง ลงไว มาแล้วหลายรอบ ประกาศซื้อหุ้นคืน แต่ก็ไม่ยอมซื้อสักบาท หรือแม้แต่ข่าวลือถูกเทกโอเวอร์มาเป็นระยะ เพื่อสะกิดราคาหุ้นอยู่เรื่อย ๆ

บล. เคจีไอ (ประเทศไทย) ให้ความเห็นว่าการที่หุ้น TKN จะกลับมาน่าสนใจอีกครั้ง ก็ต่อเมื่อกําไรมีแนวโน้มว่า จะกลับมาเติบโตได้ถึงเท่าตัว โดยมองว่าการส่งออกไปยังสหรัฐ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย จะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตของยอดขาย

การดําเนินงานของ TKN คล้ายคลึงกับ SNNP และ CH ในแง่ของการเป็นผู้ผลิตขนมขบเคี้ยว ที่เน้นการส่งออก

เมื่ออิงตามประมาณการกําไรของ Bloomberg consensus พบว่าราคาหุ้น TKN ถูกกว่าหุ้นอื่นในกลุ่มอยู่ 7-10% ดังนั้น หาก TKN สามารถรักษาแนวโน้มการลดลงของต้นทุน และการเติบโตของยอดขายจากการส่งออกได้ เชื่อว่า TKN จะกลับมาน่าสนใจลงทุนอีกครั้ง

ทั้งนี้ นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TKN เปิดเผยว่า ตั้งเป้าหมายการดำเนินงานในปี 2565 จะมีรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10-13% จากการขยายธุรกิจ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ

ตลาดในประเทศจะมุ่งมั่นเจาะเข้าสู่ร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม (Traditional Trade) เช่น โชห่วย ควบคู่กับช่องทางร้านค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) อย่างร้านสะดวกซื้อ เพื่อเน้นกระจายสินค้าให้ครอบคลุมมากขึ้น

เถ้าแก่น้อย

ส่วนตลาดต่างประเทศมียอดคำสั่งซื้อฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดหลักในประเทศจีน ที่มียอดคำสั่งซื้อเข้ามาเฉลี่ย 130-150 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อเดือน และหากในปีหน้า จีนเปิดประเทศ คาดว่าจะมียอดคำสั่งซื้อสูงกว่านี้อีก

ขณะที่สหรัฐ นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มียอดคำสั่งซื้อใน 9 เดือนแรกของปีนี้ เติบโต 90% เป็นการทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มทำตลาดในปี 2561

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน