Stock

‘ดาวโจนส์’ ปิดลบ 42.45 จุด กังวลจ้างงานพุ่ง หนุนเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย

ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (5 ต.ค.) หลังมีรายงานว่า ตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้นมากกว่าคาดในเดือนกันยายน ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานอาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 30,273.87 จุด ลดลง 42.45 จุด หรือ -0.14%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,783.28 จุด ลดลง 7.65 จุด หรือ -0.20% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,148.64 จุด ลดลง 27.77 จุด หรือ -0.25%

ดาวโจนส์

ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 208,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 200,000 ตำแหน่ง จากระดับ 185,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค.

ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการเดือนกันยายน ของสหรัฐอยู่ที่ระดับ 56.7 ซึ่งแม้ว่าชะลอตัวลงจากระดับ 57.9 ในเดือนสิงหาคม แต่ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 56 และสูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคบริการ โดยดัชนีภาคบริการเดือนกันยายน ของสหรัฐได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของการจ้างงาน

หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งต่างก็เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยหุ้นเอ็กเซลอน คอร์ปอเรชั่น ร่วงลง 3.27% หุ้นดุ๊ค เอนเนอร์จี ดิ่งลง 3.22% หุ้นโจนส์ แลง ลาซาลล์ ร่วงลง 1.22%

หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมัน WTI หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) และชาติพันธมิตร หรือโอเปคพลัส มีมติปรับลดกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรล/วัน เพื่อหนุนราคาน้ำมันในตลาด

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo