Stock

อัพราคาหุ้น GULF หลังซื้อโรงไฟฟ้าสหรัฐ 1,200 เมกะวัตต์

อัพราคาหุ้น GULF หลังซื้อโรงไฟฟ้าสหรัฐ 1,200 เมกะวัตต์ เผย 4 ปัจจัยบวกจากการเข้าลงทุนครั้งนี้

เป็นหุ้นที่รุกขยายการเติบโตอย่างต่อเนื่องสำหรับ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ผู้ประกอบธุรกิจหลักด้านการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติและพลังงานหมุนเวียน รวมถึงการลงทุนในธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

ล่าสุดบริษัททุ่มเงินก้อนใหญ่ จำนวนกว่า 400 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 15,000 ล้านบาท เพื่อลงทุนกับกลุ่ม J-POWER ซื้อหุ้นในสัดส่วน 49% โครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Jackson ประเทศสหรัฐอเมริกา ขนาดกำลังการผลิต 1,200 เมกะวัตต์ คาดเข้าถือหุ้นอย่างเป็นทางการภายในเดือนธันวาคม 2565

 โรงไฟฟ้าสหรัฐ

โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Jackson เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2565 เพื่อจำหน่ายไฟฟ้าให้กับโครงข่ายระหว่างเพนซิลเวเนีย-นิวเจอร์ซีย์-แมริแลนด์ (Pennsylvania-New Jersey-Maryland Interconnection : PJM) ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายไฟฟ้าแบบเสรี (Merchant Market) ที่มีความมั่นคงและมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกา ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 13 รัฐ

GULF เผยว่าการลงทุนครั้งนี้ จะทำให้บริษัทสามารถรับรู้ผลประกอบการได้ทันที และเป็นไปตามแผนการดำเนินงานที่จะยกระดับความมั่นคงด้านพลังงานด้วยการผลิตไฟฟ้าที่มีเสถียรภาพ และต้นทุนต่ำในช่วงการเปลี่ยนผ่านพลังงาน (Energy Transition) ไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เนื่องจากโครงการ Jackson เป็นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัย มีประสิทธิภาพสูงที่สุด และเป็นโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำที่สุดสหรัฐอเมริกา

 โรงไฟฟ้าสหรัฐ ทำนักวิเคราะห์แห่ปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย

ภายหลังจากการประกาศดีลนี้ ทำให้นักวิเคราะห์ต่างพาเหรดปรับเพิ่มราคาเป้าหมายหุ้น GULF ดังนี้

 โรงไฟฟ้าสหรัฐ

ประเด็นบวกจากการเข้าลงทุนครั้งนี้

1. ทำให้ GULF มีกำลังการผลิตทะลุ 15,000 เมกะวัตต์
โครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Jackson มีกำลังการผลิตรวม 1,200 เมกะวัตต์ หากคิดตามสัดส่วนการถือหุ้นจะอยู่ที่ 588 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นโอกาสของการเติบโตของจำนวนเมกะวัตต์ของ GULF สู่ 15,868 เมกะวัตต์ ใน 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย เวียดนาม เยอรมนี โอมาน และสหรัฐ

2. รับรู้ส่วนแบ่งกำไรทันที
คาดว่าโครงการนี้จะสร้างกำไรปีละประมาณ 3,000 – 3,500 ล้านบาท โดยอิงกับราคาก๊าซ 7 ดอลลาร์สหรัฐ/ล้านบีทียู หากราคาก๊าซเพิ่มขึ้้น กำไรและผลตอบแทนจากการลงทุนจะปรับขึ้นได้อีก ซึ่งหากเป็นไปตามแผนจะเข้ามาหนุนกำไรของบริษัทในปี 2566 แบบเต็มปี ทำให้จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยราว 28% ต่อปี

3. ก้าวแรกสู่การลงทุนในสหรัฐ 
ทำให้บริษัทมีโอกาสขยายการลงทุนโครงการใหม่เข้ามาต่อเนื่อง  คาดว่าปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาและศึกษาความเป็นไปได้ในโครงการพลังงานหมุนเวียน และโครงสร้างพื้นฐานในสหรัฐ  เพิ่มเติมอีกด้วย

เป็นอัพไซด์ครั้งสำคัญที่น่าสนใจมากทีเดียวของหุ้น GULF ที่กำลังจะโชว์ฟอร์มอย่างโดดเด่น ทำให้โบรกเกอร์ต่างประสานเสียง อัพราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นให้อีกครั้ง สำหรับแผนการสร้างการเติบโตบริษัทจะมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน สนับสนุนการเติบโตเป้าหมายระยะยาว ที่ต้องการเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในปี 2573 มีกำลังผลิตมากกว่า 7,000 เมกะวัตต์ และเพิ่มสัดส่วนรายได้ไม่ต่ำกว่า 30%

ซื้อโรงไฟฟ้าสหรัฐ
ภาพ:https://www.facebook.com/GulfSPARK.TH/

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน