Stock

‘ดาวโจนส์’ ร่วงกว่า 100 จุด เจอแรงกดดัน ‘ข้อมูลเศรษฐกิจ’ ซบเซา ‘บอนด์ยีลด์’ ทะลุ 3%

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (23 ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ร่วงกว่า 100 จุด เจอแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจซบเซา และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ หรือ “บอนด์ยีลด์” อายุ 10 ปี พุ่งทะลุ 3%

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 32,891.55 จุด ร่วงลง 172.06 จุด หรือ 0.52% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,127.73 จุด ลดลง 10.26 จุด หรือ 0.25% และดัชนีแนสแด็ก ที่ 12,371.07 จุด ขยับลงมา 10.50 จุด หรือ 0.08%

ดาวโจนส์

วันนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ดิ่งลง 12.6% มาอยู่ที่ 511,000 ยูนิตในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2559 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 575,000 ยูนิต เมื่อเทียบรายปี ยอดขายบ้านใหม่เดือนที่แล้ว ทรุดตัวลงถึง 29.6% ผลจากราคาบ้านพุ่งสูงขึ้น และการดีดตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง

ขณะที่ เอสแอนด์พี โกลบอล เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต และภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 45.0 ในเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 27 เดือน จากระดับ 47.7 ในเดือนกรกฎาคม

ดัชนี PMI อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคธุรกิจของสหรัฐอยู่ในภาวะหดตัว โดยหดตัวเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน ผลกระทบจากการชะลอตัวของคำสั่งซื้อใหม่ และการจ้างงาน แม้ว่าความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ จะแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน

ตลาดยังถูกกดดันจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ โดยนักลงทุนหันมาคาดการณ์ว่า เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินระหว่างวันที่ 20-21 กันยายนนี้ จากที่เคยประเมินไว้ว่า จะขึ้นเพียง 0.50%

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 25-27 สิงหาคม โดยคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ ทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งการปรับลดขนาดงบดุล (QT)

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo