ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (29 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” พุ่งแรงกว่า 300 จุด แรงหนุนจากการคาดการณ์ผลประกอบการที่สดใส ของ “แอปเปิ้ล” และ “อเมซอน” ขณะ “เอสแอนด์พี 500” และ “แนสแด็ก” ปรับตัวขึ้นรายเดือน เป็นเปอร์เซ็นต์มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2563
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 32,845.13 จุด เพิ่มขึ้น 315.50 จุด หรือ 0.97% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,130.29 จุด เพิ่มขึ้น 57.86 จุด หรือ 1.42% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 12,390.69 จุด เพิ่มขึ้น 228.09 จุด หรือ 1.88%
ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์บวก 3% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 4.3% และดัชนีแนสแด็ก ปรับตัวขึ้น 4.7% และตลอดเดือนกรกฎาคม ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 6.7% เอสแอนด์พี 500 ปรับตัวขึ้น 9.1% และแนสแด็ก บวก 12.4% โดยดัชนีดาวโจนส์ และเอสแอนด์พี 500 พุ่งขึ้นรายเดือนคิดเป็นเปอร์เซ็นต์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศิจกายน 2563 ส่วนแนสแด็กพุ่งขึ้นรายเดือนมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2563
หุ้นทุกกลุ่มในเอสแอนด์พี 500 ปิดบวก โดยกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นมากที่สุด 4.5% ขณะที่หุ้นเชฟรอน คอร์ป ทะยานขึ้น 8.9% และหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 4.6% หลังจากทั้งสองบริษัทเปิดเผยรายได้รายไตรมาสสูงเป็นประวัติการณ์
ตลาดได้แรงหนุนจากการที่บริษัทสหรัฐส่วนใหญ่รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ที่แข็งแกร่งเกินคาด โดยบริษัท 279 แห่งในดัชนีเอสแอนด์พี 500 รายงานผลประกอบการออกมาแล้ว ซึ่ง 77.8% มีผลประกอบการสูงเกินคาด
หุ้นแอปเปิ้ล พุ่งขึ้น 3.3% หลังเปิดเผยว่าปัญหาด้านการขาดแคลนชิ้นส่วนในการผลิตโทรศัพท์กำลังบรรเทาลง และยังคงมีความต้องการไอโฟนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่หุ้นอเมซอนดอทคอม พุ่งขึ้น 10.4% หลังคาดการณ์รายได้ไตรมาส 3 พุ่งขึ้นจากค่าธรรมเนียมสมาชิกไพรม์ซึ่งเป็นรายการวิดีโอสตรีมมิ่ง
ตลาดหุ้นสหรัฐยังทะยานขึ้นในสัปดาห์นี้ โดยได้แรงหนุนจากการที่บรรดานักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจไม่จำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงอย่างที่วิตกกัน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘เยลเลน’ เชื่อ ‘เฟด’ รับมือเงินเฟ้อได้ มั่นใจ ‘เศรษฐกิจสหรัฐ’ ไม่ถดถอย
- กังวลหนัก! เศรษฐกิจสหรัฐ ไตรมาส 1 หดตัว 1.4% หวั่นมีโอกาสเข้าสู่ภาวะถดถอย
- ‘มอร์แกน สแตนลีย์’ ชี้ ‘เศรษฐกิจสหรัฐ’ เสี่ยงถดถอย 50% แต่มั่นใจ ‘เฟด’ คุมเงินเฟ้อได้
