การเติบโตก้าวใหม่ของหุ้น ปตท. ในธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า EV นักวิเคราะห์เชื่อธุรกิจ EV เป็นก้าวที่ถูกต้องของ PTT
หุ้น PTT หรือ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นหุ้นมหาชนที่ทุกคนรู้จักกันดี ขณะเดียวกันยังมีมูลค่ามหาศาล จนมีอิทธิพลต่อความเคลื่อนไหวของดัชนี SET Index เป็นอย่างมาก ว่ากันว่าหากอยากรู้ว่าทิศทางตลาดหุ้นไทยจะไปทางไหน ก็ให้ดูหุ้นกลุ่มปตท. เป็นตัวบ่งชี้ก็ได้ หากหุ้น PTT ไม่เคลื่อนไหว ก็ยากที่ดัชนีโดยรวมจะปรับตัวขึ้น
ทว่าระยะหลังมานี้ ราคาหุ้น PTT ไม่ได้สร้างผลตอบแทนที่หวือหวาเท่าไหร่นัก โดยไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ระดับ 50 บาท มาเป็นเวลาเกือบ 4 ปีแล้ว เหตุผลหนึ่งก็เพราะการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจพลังงานที่กำลังผลัดเปลี่ยนเข้าสู่พลังงานทางเลือกใหม่ที่สะอาด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีความยั่งยืน ทำให้กลุ่มบริษัทต่างๆ ที่ PTT เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ต้องเร่งปรับตัวพอสมควร
อีกสาเหตุนั้นเป็นผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกที่ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลง เพราะปริมาณการเดินทางที่น้อยลง ประกอบกับการหดคตัวของการเดินเครื่องในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งเข้ามาฉุดรั้งให้กลุ่มธุรกิจน้ำมันและโรงกลั่นหดตัวไปด้วย
ขับเคลื่อนการเติบโตด้วยพลังงานแห่งอนาคต ด้วยยานยนต์ไฟฟ้า EV
PTT ทราบดีว่าธุรกิจในปัจจุบันกำลังเจอความท้าทายรอบด้าน ธุรกิจพลังงานแบบดั้งเดิมยังคงจำเป็นอยู่ แต่กำลังถูกลดบทบาทลงเรื่อยๆ ดังนั้น บริษัทจึงมีการทบทวนทิศทางธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ “Powering Life with Future Energy and Beyond ขับเคลื่อนทุกชีวิตด้วยพลังแห่งอนาคต” มุ่งสร้างการเติบโตในธุรกิจใหม่ (New S-curve) ที่ไกลกว่าพลังงาน
จะเห็นว่า PTT เอาจริงกับเรื่องนี้ ด้วยการปรับแผนการลงทุนปี 2565 รอบล่าสุด จำนวนรวม 91,179 ล้านบาท ซึ่งมีการเพิ่มงบในส่วนที่เป็นธุรกิจใหม่อีก 10,903 ล้านบาท เพิ่มเป็น 14,765 ล้านบาท และเพิ่มงบงการลงทุนในบริษัทที่ ปตท. ถือหุ้น 100% อีก 37,422 ล้านบาท เพิ่มเป็น 56,432 ล้านบาท โดยงบสองก้อนนี้คิดเป็นกว่า 78% ของทั้งหมด เป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสร้าง New S-curve ได้แก่ ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle : EV) และธุรกิจด้านวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต (Life Science) รวมไปถึง Mobility & Lifestyle, High Value Business, Logistics & Infrastucture และ AI, Robotics & Digitalization
เป้าหมายในปี 2565 กลุ่มบริษัทจะขยาย EV Charging Station กว่า 1,700 จุด ประกอบด้วย สถานีชาร์จของ ARUN PLUS ตามห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน และที่อยู่อาศัย จำนวน 1,350 จุด และของ OR ในสถานีน้ำมัน PTT stations 200 จุด และนอกสถานีอีก 150 จุด
นักวิเคราะห์เชื่อยานยนต์ไฟฟ้า EV เป็นก้าวที่ถูกต้องของ PTT
บล. ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่าการเข้าสู่ธุรกิจ EV ของ PTT เป็นการลงทุนที่ถูกต้อง เนื่องจากจะเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตรอบใหม่ในระดับสูง แม้จะยังเป็นภาพระยะยาว แต่คาดว่าภายในปี 2573 จะมีส่วนแบ่งกำไรที่สูงถึง 10,000 ล้านบาทต่อปี
ขณะที่การร่วมกับ ฟ็อกซ์คอนน์ เทคโนโลยี กรุ๊ป (Foxconn Technology Group) ตั้งบริษัทร่วมทุน HORIZON PLUS เดินหน้าสร้างโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร มูลค่าราว 36,100 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายผลิตยานยนต์ไฟฟ้าออกสู่ตลาดภายในปี 2567 กำลังการผลิตที่ 50,000 คันต่อปี ในระยะแรก และจะขยายกำลังการผลิตไปถึง 150,000 คันต่อปี ภายในปี 2573 จะเป็นปัจจัยพลิกสถานการณ์ของ PTT ได้ในอนาคต
ทั้งนี้ การเติบโตในธุรกิจ EV ของ PTT ยังเป็นภาพระยะยาว แน่นอนว่าในระยะสั้นบริษัทอาจจะถูกกดดันจากหลากหลายปัจจัย อาทิ ภาวะตลาดหุ้นไทยที่ไม่สดใส อัตราเงินเงินเฟ้อ และความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ แต่อย่างไรก็ดี หากนักลงทุนที่เชื่อมั่นในกลยุทธ์ระยะยาว หุ้น PTT นั้นมีจุดแข็งมากมายที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม ฐานลูกค้าที่หลากหลายทั้งในและต่างประเทศ ความพร้อมในฐานะทางการเงิน และแผนกลยุทธ์ที่ชัดเจนเพื่อพร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงแห่งโลกอนาคต
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์’ ซีอีโอ ปตท. เปิดวิสัยทัศน์ มุ่งพลังงานหมุนเวียน ไฟฟ้า อีวี ธุรกิจใหม่แห่งอนาคต
- ‘กลุ่ม ปตท.-ฟ็อกซ์คอนน์’ เร่งสร้างโรงงานผลิต EV ครบวงจร ปักหมุดไทย ศูนย์กลางอุตฯ ยานยนต์ไฟฟ้าอาเซียน
- นายกฯ เยี่ยมบูธ ‘กลุ่ม ปตท.’ โชว์นวัตกรรม-เทคโนโลยีสุดล้ำ งาน ‘FTI Expo 2022’
