Stock

กังวล ‘เฟด’ ขึ้นดอกเบี้ยแรง ทำเศรษฐกิจถดถอย ทุบ ‘ดาวโจนส์’ ทรุดเกิน 600 จุด ‘แนสแด็ก’ ร่วงเกือบ 4%

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (13 มิ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ร่วงกว่า 600 จุด ส่วน “แนสแด็ก” ดิ่งไปมากกว่า 400 จุด ท่ามกลางความกังวลว่า การ “ขึ้นดอกเบี้ย” เชิงรุกของ “เฟด” จะทำให้เศรษฐกิจตกอยู่ในภาวะถดถอย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 30,768.19 จุด ดิ่งลง 624.60 จุด หรือ 1.99% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 3,788.75 จุด ร่วงลง 112.11 จุด หรือ 2.87% และดัชนีแนสแด็กที่ 10,929.35 จุด ร่วงลง 410.67 จุด หรือ 3.62%

หุ้นทุกกลุ่มปรับตัวลงในวันนี้ นำโดยกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันที่ร่วงลงในตลาดโลก

ดาวโจนส์

ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 800 จุดเมื่อวันศุกร์ (10 มิ.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่สูงเกินคาด ซึ่งอาจทำให้เฟดต้องเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve ในวันนี้ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นดีดตัวเหนือพันธบัตรระยะยาว ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงแนวโน้มการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปีดีดตัวสูงกว่าอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย. ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าเฟดจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 5 ปีได้ดีดตัวสูงกว่าอายุ 10 ปีและ 30 ปี

ที่ผ่านมา ภาวะ inverted yield curve มักเกิดขึ้นจากการที่นักลงทุนพากันเทขายพันธบัตรระยะสั้น และเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาว ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจในระยะสั้น โดยนักลงทุนกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะได้รับผลกระทบจากการที่เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ก่อนหน้านี้ เหตุการณ์อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 5 ปีพุ่งขึ้นสูงกว่าพันธบัตรอายุ 30 ปีได้เกิดขึ้นในปี 2549 ก่อนที่จะเกิดวิกฤตการเงินทั่วโลกในเวลาเพียงไม่กี่ปีถัดมา

FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากกว่า 50% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 14-15 มิถุนายนนี้ เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ให้น้ำหนักเพียง 5% ก่อนหน้านี้

นักวิเคราะห์จากหลายสำนักต่างคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมนโยบายการเงินในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2537 เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ

“การพุ่งขึ้นของดัชนี CPI พื้นฐานจะทำให้เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในสัปดาห์นี้ และยืดเวลาของการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ยาวถึงฤดูใบไม้ร่วง” นักวิเคราะห์จากแคปิตอล อิโคโนมิกส์ ระบุในรายงาน

เช่นเดียวกับ นักวิเคราะห์จากบาร์เคลยส์ และเจฟเฟอรีส์ ที่คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมสัปดาห์นีี้ ส่วนนักวิเคราะห์จากบีเอ็นวาย เมลลอนคาดว่าเฟดจะจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมสัปดาห์นี้ จากเดิมที่คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 0.50%

ขณะที่ นักวิเคราะห์จาก Swissquote Bank ระบุว่า มีโอกาสมากกว่า 50% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในเดือนกรกฎม และมีโอกาส 14% ที่จะปรับขึ้นถึง 1.00% หลังการประกาศตัวเลข CPI

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo