Stock

‘ดาวโจนส์’ พุ่งเกิน 500 จุด คลายกังวล ‘ขึ้นดอกเบี้ย’ แรง หลัง ‘เศรษฐกิจสหรัฐ’ ไตรมาส 1 หดตัว

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (26 พ.ค.) โดยที่ “ดาวโจนส์” ดีดตัวแรง หลังผู้ค้าปลีกหลายรายคาดการณ์ด้านบวก เกี่ยวกับผลประกอบการตลอดทั้งปี ขณะข้อมูลยืนยันว่า เศรษฐกิจหดตัวในไตรมาสแรก ช่วยให้นักลงทุนคลายกังวลเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยอย่างรุนแรงของแบงก์ชาติสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 32,623.12 จุด พุ่งขึ้น 502.84 จุด หรือ 1.57% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,052.54 ขุด ปรับขึ้น 73.81 จุด หรือ 1.86% และดัชนีแนสแด็กที่ 4,052.54 จุด ดีดขึ้น 73.81 จุด หรือ 1.86%

ดาวโจนส์

หุ้นทั้ง 11 กลุ่มในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ต่างปรับตัวสูงขึ้น โดยหุ้นกลุ่มค้าปลีกพุ่งขึ้น 3% หลังเมซีส์ อิงค์ ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ของสหรัฐ รายงานตัวเลขกำไร และรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาสแรก เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยคาดว่า แนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะช่วยหนุนผลประกอบการของสถาบันการเงิน

ตลาดยังได้ปัจจัยบวก จากการเปิดเผยตัวเลขคนว่างงานที่ต่ำกว่าคาด โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า ในสัปดาห์ที่แล้ว จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 8,000 ราย มาอยู่ที่ 210,000 ราย น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 215,000 คน

กระทรวงแรงงานสหรัฐ รายงานด้วยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น 35,000 ราย มาอยู่ที่ 1.35 ล้านราย แต่ใกล้เคียงระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2512

ขณะที่ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 1 ปี 2565 โดยระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 1.5% จากเดิมที่รายงานว่าหดตัว 1.4% ในตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐหดตัวเพียง 1.3%

เศรษฐกิจสหรัฐหดตัวในไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรก นับตั้งแต่ที่เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอย โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงต้นปี 2563

ส่วนปี 2564 เศรษฐกิจสหรัฐเติบโต 6.3% ในไตรมาส 1 และ 6.7% ในไตรมาส 2 ก่อนที่จะชะลอตัวสู่ 2.3% ในไตรมาส 3 เนื่องจากการขาดแคลนวัตถุดิบในภาคการผลิต ซึ่งกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน และการใช้จ่ายของผู้บริโภค แต่เศรษฐกิจสหรัฐกลับมามีการขยายตัว 6.9% ในไตรมาส 4

ทำให้ตลอดทั้งปีที่แล้ว เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 5.7% ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2527 หลังหดตัว 3.4% ในปี 2563 ซึ่งเป็นการหดตัวรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2489 ผลกระทบจากการระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo