Stock

‘ดาวโจนส์’ ปิดซื้อขายขยับขึ้นไม่ถึง 10 จุด กังวลเศรษฐกิจ-ผลประกอบการธุรกิจ ทำตลาดผันผวนหนัก

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (20 พ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” บวกขึ้นเล็กน้อย ท่ามกลางการซื้อขายที่เต็มไปด้วยความผันผวน ทำให้ ดาวโจนส์ ปรับตัวลงในรายสัปดาห์ เป็นสัปดาห์ที่ 8 ติดต่อกัน ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2475 ซึ่งเป็นช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 31,261.90 จุด เพิ่มขึ้น 8.77 จุด หรือ 0.03% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,901.36 จุด เพิ่มขึ้น 0.57 จุด หรือ 0.01% และดัชนี แนสแด็กปิดที่ 11,354.62 จุด ลดลง 33.88 จุด หรือ 0.30%

ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 2.9% เอสแอนด์พี 500 ลดลง 3.0% และแนสแด็ก ร่วงลง 3.8%

ดาวโจนส์

หุ้น 6 ใน 11 กลุ่มของเอสแอนด์พี 500 ปิดบวก นำโดยกลุ่มเฮลท์แคร์ซึ่งเพิ่มขึ้น 1.26% ขณะที่หุ้นลบนำโดยกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยซึ่งลดลง 1.53%

หุ้นเทสลา ร่วงลง 6.4% หลังนายอีลอน มัสก์ ซีอีโอ ปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่า เขาได้ล่วงละเมิดทางเพศพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินส่วนตัวในปี 2559 ส่วนหุ้นตัวใหญ่อื่น ๆ ปรับตัวลงด้วย โดยหุ้นอัลฟาเบท ร่วง 1.3% และหุ้นอินวิเดีย ร่วง 2.5%

ความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น และอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ฉุดตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงในปีนี้ ทั้งการเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวังจากยักษ์ค้าปลีกรายต่าง ๆ อาทิ วอลมาร์ท ในสัปดาห์นี้ ทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจด้วย

การคาดการณ์ผลประกอบการที่น่าผิดหวังจากบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ อาทิ วอลมาร์ท และทาร์เก็ต อิงค์ ได้ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขาย และราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น ได้เริ่มที่จะส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคสหรัฐ

ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ความไม่แน่นอนที่เพิ่มสูงขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจนั้น มีแนวโน้มที่จะทำให้การซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนต่อไป

“เราเชื่อว่าตลาดจะยังคงปั่นป่วนต่อไปจนกว่านักลงทุนจะมีความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย, อัตราดอกเบี้ย และความเสี่ยง” นักวิเคราะห์จากยูบีเอส ระบุ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo