ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (29 เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ทรุดหนัก ร่วงกว่า 900 จุด เหตุนักลงทุนผิดหวังกับการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนบางราย และกังวลเกี่ยวกับการเร่งขึ้นดอกเบี้ย หลังเงินเฟ้อในสหรัฐ พุ่งขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2548
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 32,977.21 จุด ร่วงลง 939.18 จุด หรือ 2.77% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,131.93 จุด ร่วงลง 155.57 จุด หรือ 3.63% และดัชนี แนสแด็กปิดที่ 12,334.64 จุด ร่วงลง 536.89 จุด หรือ 4.17%
ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วงลงวันเดียวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2563 และดัชนีแนสแด็กดิ่งลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2563 และในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 2.5%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 3.3% และดัชนีแนสแด็กร่วงลง 3.9%
หุ้นทั้ง 11 กลุ่มของดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วงลง นำโดยกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยที่ดิ่งลง 5.9% และกลุ่มอุตสาหกรรมร่วงลง 4.9%
การเปิดเผยแนวโน้มผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทจดทะเบียน และความวิตกที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคุมเข้มนโยบายการเงินเชิงรุก ได้ส่งผลกระทบต่อหุ้นตัวใหญ่ ๆ ในกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มเติบโตในเดือนนี้
เฟดจะประชุมนโยบายการเงินในสัปดาห์หน้า (3-4 พ.ค.) ซึ่งบรรดาเทรดเดอร์คาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% เพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น
หุ้นอเมซอน ดอท คอม ร่วงลง 14.05% ซึ่งเป็นการร่วงลงวันเดียวมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2549 ซึ่งทำให้ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี หลังเปิดเผยผลประกอบการและแนวโน้มที่น่าผิดหวัง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
หุ้นแอปเปิ้ล อิงค์ ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก ร่วงลง 3.66% หลังการเปิดเผยแนวโน้มผลประกอบการที่น่าผิดหวัง บดบังการเปิดเผยผลกำไร และยอดขายรายไตรมาสที่สูงเป็นประวัติการณ์
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจด้วย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดีดตัวขึ้น 0.9% ในเดือนมีนาคม จากระดับ 0.5% ในเดือนกุมภาพันธ์
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘เฟด’ ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% หั่นคาดการณ์ ‘เศรษฐกิจสหรัฐ’ ปี 65 โตแค่ 2.8%
- ‘ไอเอ็มเอฟ’ หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปี 65-66 เหตุ ‘สงครามยูเครน’ จ่อยืดเยื้อ เตือนภัย ‘เงินเฟ้อ’
- ‘ไอเอ็มเอฟ’ มอง ‘วิกฤติยูเครน’ ทำ ‘เศรษฐกิจเอเชีย’ ผันผวนมากขึ้น ชี้ยิ่งยืดเยื้อ ยิ่งกระทบ ‘ราคาน้ำมัน’