Stock

วิเคราะห์ ‘หุ้น SCGP’ โมเมนตัมฟื้น เดินหน้าเติบโตโดดเด่น

หุ้น SCGP หรือ บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ประกอบธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร ประกอบด้วย บรรจุภัณฑ์จากวัสดุสมรรถนะสูงและพอลิเมอร์ที่ใช้กับสินค้าอุปโภคบริโภคโดยตรง บรรจุภัณฑ์จากเยื่อและกระดาษ เช่น กล่องลูกฟูก กล่องพิมพ์สีเพื่อการแสดงสินค้า และกระดาษบรรจุภัณฑ์ โดยสัดส่วนรายได้จากการขาย จะเห็นว่าธุรกิจกระดาษบรรจุภัณฑ์มีสัดส่วนรายได้มากที่สุด รองลงมาจะเป็นธุรกิจบรรจุภัณฑ์จากเยื่อและกระดาษ และสุดท้ายจะเป็นกลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์จากวัสดุสมรรถนะสูงและพอลิเมอร์

วิเคราะห์ SCGP

กลุ่มลูกค้าของ SCGP จะมาจากในประเทศประมาณ 52% และต่างประเทศอีก 48% เช่น อินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบธุรกิจอยู่ในตลาดที่มีโอกาสเติบโตสูงในหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อาหารและเครื่องดื่ม อีคอมเมิร์ซ และโลจิสติกส์

ผลการดำเนินงานย้อนหลังของห SCGP

SCGP อยู่ในธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง จากเทรนด์ของธุรกิจเดลิเวอรี่และอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคอาเซียน  เป็นประโยชน์ต่อตลาดบรรจุภัณฑ์อย่างมาก ประกอบกับจุดแข็งของบริษัทที่มีโมเดลธุรกิจเชื่อมโยงตั้งแต่ขั้นต้นจนถึงขั้นปลาย คือ เริ่มจัดหาวัตถุดิบสำหรับการผลิต แล้วจึงเข้าสู่กระการผลิตบรรจุภัณฑ์ ไปจนถึงการจัดส่งบรรจุภัณฑ์ให้แก่ลูกค้า รวมไปถึงการมีฐานลูกค้าในหลายประเทศและหลายอุตสาหกรรม

ทำให้ SCGP มีความได้เปรียบทางการแข่งขัน มีศักยภาพทางธุรกิจที่สูง และยังคงรักษาการเติบโตทางด้านรายได้และกำไรอย่างต่อเนื่อง แม้จะอยู่ท่ามกลางสถานการณ์ความผันผวนทางเศรษฐกิจในข่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา โดยจะเห็นว่าการเติบโตของผลประกอบการ เป็นดังนี้

ผลประกอบการ scgp

ปี 2562 รายได้ 89,783 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.08% และกำไรสุทธิ 5,268 ล้านบาท ลดลง 13.14%
ปี 2563 รายได้ 93,388 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.17% และกำไรสุทธิ 6,457 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.57%
ปี 2564 รายได้ 126,436 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.88% และกำไรสุทธิ 8,294 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.45%

หุ้น SCGP โมเมนตัมฟื้น กำไรผ่านพ้นจุดต่ำสุด

แม้ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น SCGP ตั้งแต่ต้นปี 2565 จะปรับตัวลดลงไปค่อนข้างมาก จากความกังวลเรื่องต้นทุนพลังงานที่ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งกระทบต่อไปสู่ต้นทุนกระดาษที่ใช้ผลิตผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ รวมถึงต้นทุนถ่านหินที่ SCGP ใช้เป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้าสำหรับป้อนให้กับโรงงานเยื่อกระดาษ

ขณะที่การประกาศผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 4/2565 ถึงแม้กำไรสุทธิจะยังเติบโตในระดับสูง ทว่าเมื่อเจาะลึกไปที่กำไรจากการดำเนินงานนั้น ถือว่าปรับลดลงจากช่วงปีก่อน เพราะโดนผลกระทบในเรื่องต้นทุนและยอดขาย ทั้งหมดนี้จึงเป็นประเด็นที่กดดันให้ราคาหุ้น SCGP ปรับลดลงถึง 12.36% นับตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม เมื่อสำรวจบทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ พบว่ามีมุมมองที่คล้ายกันว่าแนวโน้มของ SCGP นับตั้งแต่ไตรมาส 1/2565 ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ส่งผลให้ภาพรวมปี 2565 บริษัทมีโอกาสเดินหน้าสร้างการเติบโตได้โดดเด่น

บล.กสิกรไทย ให้คำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น SCGP ด้วยราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 64 บาท เนื่องจาก ปัจจัยลบต่างๆ จะค่อย ๆ คลายตัว ส่วนการเติบโตของยอดขายจะดีขึ้นในไตรมาส 1/2565 เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์ในประเทศหลัก ๆ เข้มงวดน้อยลง อีกทั้งเชื่อมั่นในกลยุทธ์การเติบโตระยะยาว แม้ระยะสั้นจะยังมีความไม่แน่นอนจากต้นทุนพลังงานและวัตถุดิบที่สูง

บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ให้คำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น SCGP ที่ราคาเป้าหมาย 75 บาท โดยเริ่มเห็นว่ามีแรงซื้อกลับเข้ามามากขึ้น หลังต้นทุนพลังงานปรับฐานลงมา และมองว่าปัจจัยนี้คงส่งผลกระทบไม่มากนัก เพราะถ่านหินมีสัดส่วนเพียง 5% ของต้นทุนการผลิต และบริษัทสามารถปรับขึ้นราคาขายเพื่อสะท้อนต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้ ขณะเดียวกันแนวโน้มผลการดำเนินงานมีทิศทางเติบโต จากการรับรู้กำไรของบริษัทย่อย ที่ได้จากการซื้อกิจการ (M&P) ไปเมื่อปีก่อน จำนวน 5 ดีล

หมายเหตุ | บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาชี้นำหรือแนะนำให้ซื้อ ถือหรือขายหุ้นแต่อย่างใด ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน