ตลาดหุ้นสหรัฐ ปิดซื้อขายเมื่อวานนี้ (28 ก.พ.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ร่วงลง ท่ามกลางความกังวลว่า “วิกฤติยูเครน” จะรุนแรงมากขึ้น หลังการเจรจากับรัสเซีย ไร้ข้อสรุป แต่บอนด์ยีลด์ที่ลดต่ำลง ช่วยหนุนแนสแด็ก ปิดในแดนบวก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 33,892.60 จุด ลดลง 166.15 จุด หรือ 0.49% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,373.94 จุด ลดลง 10.71 จุด หรือ 0.24% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 13,751.40 จุด เพิ่มขึ้น 56.78 จุด หรือ 0.41%
ดาวโจนส์ร่วง เหตุกังวล “ยูเครน-รัสเซีย”
ภาวะการซื้อขายในตลาด ยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยแม้ว่าคณะผู้แทนของ 2 ฝ่าย จะจัดการเจรจาโดยตรงขึ้น เมื่อวานนี้เพื่อคลี่คลายความขัดแย้ง แต่ก็ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิงร่วมกันได้ โดยจะเปิดเจรจารอบต่อไป ที่ชายแดนเบลารุส และโปแลนด์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลง 2.52% หุ้นเจพีมอร์แกน ร่วงลง 4.17% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ลดลง 1.82% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ดิ่งลง 4.03%
อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น 2.57% หลังจากราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท (WTI) พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง 4.13 ดอลลาร์ หรือ 4.5% ปิดที่ 95.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่ หุ้นกลุ่มผู้ผลิตอาวุธ ดีดตัวสูงขึ้น เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ที่ทะยานขึ้นมา หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเทสลา พุ่งขึ้น 7.48% ไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 0.50% อัลฟาเบท เพิ่มขึ้น 0.44% แอปเปิ้ล เพิ่มขึ้น 0.16% และเอนวิเดีย เพิ่มขึ้น 0.94%
สัปดาห์นี้ นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนกุมภาพันธ์ ของสหรัฐ ขณะนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 415,000 ตำแหน่ง
นักลงทุนยังให้ความสนใจต่อการแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ของประธานาธิบดีโจ ไบเดนต่อสภาคองเกรสในวันนี้ (1 มี.ค.) เวลา 21.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเช้าวันพุธ (2 มี.ค.) เวลา 09.00 น.ตามเวลาไทย
คาดว่าการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีไบเดนต่อสภาคองเกรสในครั้งนี้ ซึ่งเป็นการแถลงนโยบายประจำปีต่อวุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเป็นครั้งแรกของเขา จะได้รับความสนใจไปทั่วโลก ท่ามกลางวิกฤตการณ์ในยูเครน โดยจะมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ต่อชาวสหรัฐทั่วประเทศ
นักวิเคราะห์คาดว่า ผู้นำสหรัฐจะเริ่มต้นด้วยการกล่าวถึงความสำเร็จ และผลงานของรัฐบาลสหรัฐในปีที่ผ่านมา โดยเขาจะกล่าวถึงการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นวอลล์สตรีท และความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐ พร้อมกับจะกล่าวถึงสิ่งที่เขาจะดำเนินการต่อไป ในช่วงเวลาที่เหลือของการดำรงตำแหน่งของเขา
ในประเด็นทางการเมือง ประธานาธิบดีไบเดน จะกล่าวประณามรัสเซียที่ใช้กำลังทหารบุกโจมตียูเครน รวมทั้งจะกล่าวถึงมาตรการคว่ำบาตรที่มีต่อรัสเซีย และมาตรการให้ความช่วยเหลือต่อยูเครน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- รัสเซียป่วนหนัก!! ขึ้นดอกเบี้ยจาก 9.5% เป็น 20% หวังจำกัดความเสียหาย เจอคว่ำบาตรหนัก
- ‘กสิกรไทย’ จับตา ‘วิกฤติยูเครน-คว่ำบาตรรัสเซีย’ กระทบ ‘ส่งออก-เศรษฐกิจ’ ไทย
- ‘เฟด’ ส่งสัญญาณ ‘ขึ้นดอกเบี้ย’ ยืนยันยุติ ‘คิวอี’ ตามแผนเดิม