Stock

GULF กำไรทุบสถิติสูงสุด อนาคตเติบโตโดดเด่นสุด หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า

GULF กำไรทุบสถิติสูงสุด อนาคตเติบโตโดดเด่นสุดหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า จับมือ CP  ตั้งบริษัทร่วมทุน ดำเนินธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ รวมถึงพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา

ขึ้นแท่นหุ้นยอดนิยมไปแล้วสำหรับ GULF หรือ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ด้วยการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องจนเป็นหนึ่งในหุ้น 5 อันดับแรกของตลาดที่มีมูลค่าสูงสุด โดยปัจจุบัน GULF มี Market Cap. สูงกว่า 592,000 ล้านบาท

GULFกำไรทุบสถิติสูงสุด อนาคตเติบโตโดดเด่นสุด หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า

นอกเหลือจากความแข็งแกร่งและผลการดำเนินงานที่มั่นคงในฐานะผู้นำธุรกิจโรงไฟฟ้าแล้ว ความน่าสนใจ เวลานี้คือสตอรี่การลงทุนใหม่ๆ ที่มาหนุนราคาหุ้นอย่างต่อเนื่อง อาทิ การเข้าลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดร่วมกับกลุ่ม PTT, การซื้อหุ้น INTUCH ซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ, การรุกตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล โดยทำบันทึกข้อตกลงร่วมกับ Binance

GULF

ล่าสุด GULF เพิ่งประกาศตั้งบริษัทร่วมทุนกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) สำหรับดำเนินธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ รวมถึงพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) และพลังงานแสงอาทิตย์บนพื้นดิน (Solar Farm) โดยมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรม และลูกค้าภาคธุรกิจ ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดนครราชสีมา นับเป็นการผนึกความแข็งแกร่งร่วมกับพันธมิตรชั้นนำอีกครั้ง เพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพในการขยายฐานลูกค้าและเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจให้กับบริษัท

กำไรปี 2564 ทุบสถิติสูงสุด เคาะจ่ายปันผล 0.44 บาท

GULF ประกาศผลการดำเนินงานประจำปี 2564 มีรายได้รวม 52,870 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48% จากปี 2563 และมีกำไรจากการดำเนินงาน (Core Profit) 8,812 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 97% จากปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 7,670 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79% นับเป็นการสร้างสถิติกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์บริษัท

เนื่องจากปีที่ผ่านมา GULF เปิดดำเนินการโรงไฟฟ้าโครงการใหม่ GSRC หน่วยที่ 1 และหน่วยที่ 2 และโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ DIPWP ระยะที่ 1 ประเทศโอมาน อีกทั้งยังรับรู้ผลการดำเนินงานทั้งปีของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในทะเล BKR2 ประเทศเยอรมนี รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก PTT NGD เต็มปี และรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก INTUCH จำนวน 1,093 ล้านบาท

GULF

ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัท เคาะจ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 0.44 บาท หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลต่อกำไรสุทธิ เท่ากับ 88% โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 7 มีนาคม 2565 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 28 เมษายน 2565 ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ จะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 4 มีนาคม 2565

ส่วนทิศทางผลการดำเนินงานปี 2565 บริษัทคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง จากการเปิด COD โรงไฟฟ้า GSRC หน่วยที่ 3 และ 4 ซึ่งมีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งรวม 1,325 MW และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในทะเลที่เวียดนาม (Mekong Wind) คาดว่าจะ COD ครบ 128 MW ภายในไตรมาส 2 รวมถึงโรงไฟฟ้า Solar Rooftop ของกลุ่มบริษัทที่จะเริ่มทยอย COD อีก 100 MW ภายในปีนี้ ซึ่งทั้งหมดจะทำให้ GULF มีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งเพิ่มขึ้นเป็น 9,422 MW

ราคาหุ้นโดดเด่น โบรกฯ ชู Top Pick กลุ่มโรงไฟฟ้า

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น GULF ถือว่าเป็นขาขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น GULF ปรับตัวเพิ่มขึ้น 30.07% ส่วนผลตอบแทนในรอบ 1 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 49.62% โดยราคาบนกระบานปัจจุบัน (25 ก.พ. 2565) วิ่งอยู่ที่บริเวณ 50 บาท

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ บล. บัวหลวง แนะนำ “ซื้อ” หุ้น GULF และให้ราคาเป้าหมายที่สูงถึง 62 บาท เรียกว่ามีอัพไซด์จากราคาปัจจุบันถึง 24% เนื่องจากมองว่าในช่วง 2-3 ข้างหน้า GULF จะมีอัตราการเติบโตที่รวดเร็วที่สุดในยรรดาหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า จากแนวโน้มที่แข็งแกร่งของธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน โลจิสติกส์ และ Data Center ซึ่งความเสี่ยงเพียงน้อยของบริษัทมีเพียงประเด็นของราคาก๊าซธรรมชาติที่สูงขึ้นเท่านั้น

GULF

ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์ บล. ฟินันเซีย ไซรัส ยกให้ GULF เป็นหุ้น Top Pick ที่มีความโดดเด่นสุดในกลุ่มโรงไฟฟ้า แนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 60 บาท โดยมีมุมมองว่า GULF มีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่องไปตั้งแต่ปี 2565-2566 จากโครงการใหม่ๆ ที่เข้ามา ซึ่งจะหนุนให้บริษัทรักษากำไรสุทธิอยู่ในระดับที่สูงต่อไป

หมายเหตุ : บทความนี้เพื่อใช้สำหรับศึกษาเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน