Stock

กังวล ‘เฟด’ ขึ้นดอกเบี้ยแรง ฉุด ‘ดาวโจนส์’ ร่วงเกิน 200 จุด

ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (14 ก.พ.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ ดาวโจนส์ ร่วงลงกว่า 200 จุด ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่เต็มไปด้วยความผ้นผวน จากความกังวลถึงการขึ้นดอกเบี้ย แม้ท่าทีล่าสุดของรัสเซีย จะช่วยคลายกังวลในเรื่องการบุกยูเครนก็ตาม

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 34,501.21 จุด ร่วงลง 236.85 จุด หรือ 0.68% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,407.33 จุด ลดลง 11.31 จุด หรือ 0.26%  และดัชนีแนสแด็กที่ 13,901.88 จุด ขยับขึ้น 110.73 จุด หรือ 0.80%

ดาวโจนส์

ทำเนียบเครมลิน ของรัสเซีย  เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้อนุมัติในหลักการต่อแนวทางการตอบสนองของกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ต่อคำตอบจากสหรัฐ และชาติตะวันตกเกี่ยวกับข้อเรียกร้องด้านความมั่นคงของรัสเซียก่อนหน้านี้

นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวต่อประธานาธิบดีปูตินในวันนี้ว่า รัสเซียควรดำเนินการเจรจากับสหรัฐและชาติตะวันตกต่อไปเกี่ยวกับข้อเรียกร้องด้านความมั่นคงของรัสเซีย ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน และว่า รัสเซียยังคงมีโอกาสที่จะบรรลุข้อตกลงด้านความมั่นคงกับชาติตะวันตก

คำกล่าวของนายลาฟรอฟเป็นการส่งสัญญาณว่า รัสเซียจะยังคงใช้แนวทางการทูตในการคลี่คลายวิกฤตการณ์ยูเครน แม้สหรัฐเตือนว่ารัสเซียอาจทำการโจมตียูเครนได้ทุกเมื่อ

ทั้งนี้ รัสเซียยื่นข้อเรียกร้องต่อสหรัฐและชาติตะวันตก เพื่อให้มีการรับประกันว่า องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) จะไม่รับยูเครน และประเทศซึ่งเคยอยู่ในอดีตสหภาพโซเวียตเข้าเป็นสมาชิก ขณะที่สหรัฐและพันธมิตรจะต้องถอนกำลังทหารออกจากกลุ่มประเทศอดีตสหภาพโซเวียต

นายลาฟรอฟกล่าวว่า รัสเซียควรเจรจาต่อไป แม้ว่าสหรัฐและนาโตได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องดังกล่าวของรัสเซีย แต่สหรัฐก็ได้เสนอที่จะจำกัดการติดตั้งขีปนาวุธในยุโรป และลดขนาดการซ้อมรบ รวมทั้งยื่นข้อเสนออื่นๆต่อรัสเซีย

กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย เกาะติดดาวโจนส์

วันนี้ นักลงทุนยังเพิ่มคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นดอกเบี้ย 7 ครั้งในปีนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 40 ปี รวมทั้งเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่ง

ทั้งนี้ เฟดวอทช์ ทูล (FedWatch Tool) ของ ซีเอ็มอี กรุ๊ป บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 55% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 7 ครั้งในปีนี้ โดยคาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมทั้ง 7 ครั้งที่เหลือในปีนี้ เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม  โดยให้น้ำหนักมากถึง 88% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมีนาคม รวมทั้งให้น้ำหนัก 95% ที่จะขึ้นดอกเบี้ยอย่างน้อย 1.00% ภายในเดือนมิถุนายน

ก่อนหน้านี้ นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด แสดงความเชื่อมั่นว่า เฟดยังคงสามารถขึ้นดอกเบี้ย “ได้อีกมาก” โดยไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงาน

ที่ผ่านมา นักวิเคราะห์จากหลายสำนักต่างพากันปรับเพิ่มคาดการณ์ การขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งสูงสุดในรอบ 40 ปี รวมถึง โกลด์แมน แซคส์คาดว่า เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 7 ครั้ง เป็นการปรับขึ้นครั้งละ 0.25% จากเดิมที่คาดว่า จะขึ้นดอกเบี้ย 5 ครั้ง

ถ้าหากเฟดตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ย 7 ครั้งจริง จะส่งผลให้ดอกเบี้ยนโยบายของเฟดพุ่งแตะ 1.75-2.00% ในปลายปีนี้ จากปัจจุบันที่ระดับ 0.00-0.25%

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo