“ดาวโจนส์” ปิดซื้อขายเมื่อวานนี้ (21 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ร่วงลงกว่า 400 จุด โดยถูกกดดันจากหุ้นเน็ตฟลิกซ์ ซึ่งดิ่งลงอย่างหนัก หลังเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอ ขณะที่ “เอสแอนด์พี 500” และ “แนสแด็ก” ร่วงลงรายสัปดาห์มากสุด เมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ นับตั้งแต่ “โควิด” เริ่มระบาดในเดือนมีนาคม 2563
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 34,265.37 จุด ร่วงลง 450.02 จุด หรือ 1.30%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,397.94 จุด ร่วงลง 84.79 จุด หรือ 1.89% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 13,768.92 จุด ร่วงลง 385.10 จุด หรือ 2.72%
ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 4.6% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วงลง 5.7% และดัชนีแนสแด็ก ร่วงลง 7.6%
นักวิเคราะห์ระบุว่า ตลาดถูกกดดันจากแรงเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และการเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอจาก “เน็ตฟลิกซ์” บริษัทสตรีมมิงชื่อดัง ที่ราคาหุ้นดิ่งลง ถึง 21.8% ถ่วง ดัชนีเอสแอนด์พี 500 และดัชนีแนสแด็ก ร่วงลง หลังบริษัทเผยจำนวนผู้ชม ในไตรมาส 4 ปีที่แล้ว ชะลอตัวลง และคาดว่า การขยายตัวของสมาชิกจะอ่อนแอ ขณะที่หุ้นวอลท์ ดิสนีย์ ร่วงลง 6.9%
นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร และความวิตกว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อนั้น ได้ส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มเติบโต
บรรดานักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปที่การประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า เพื่อดูความชัดเจนว่า เฟดมีแผนจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนต่อ ๆ ไปหรือไม่ หลังข้อมูลเศรษฐกิจเมื่อสัปดาห์ที่แล้วบ่งชี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธันวาคม พุ่งขึ้นรายปีมากที่สุดในรอบเกือบ 40 ปี
นอกจากนี้ นักลงทุนจะจับตาการรายงานผลประกอบการของบริษัทแอปเปิ้ล เทสลา และไมโครซอฟท์ ในสัปดาห์หน้าด้วย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘KBank Private Banking’ มองเศรษฐกิจโลกปี 65 โตช้าลง แนะลงทุน ‘สินทรัพย์นอกตลาด’
- ‘SCB CIO’ เตือนตลาดอาจผันผวนสูง หลังเฟด ประกาศ QT เตรียมกระสุนเก็บหุ้นยุโรป-สหรัฐ และเวียดนาม
- ‘ไมโครซอฟท์’ ทุ่ม 2.2 ล้านบาท ซื้อ ‘แอคติวิชัน บลิซซาร์ด’ ผงาดเทียบชั้น ‘เทนเซ็นต์-โซนี่’