ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ (7 ม.ค.) และปรับตัวลงในสัปดาห์แรกของปีใหม่นี้ เนื่องจากนักลงทุนขายหุ้นออกมาท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐ และการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 36,231.66 จุด ลดลง 4.81 จุด หรือ 0.013%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,677.03 จุด ลดลง 19.02 จุด หรือ 0.41% และดัชนี แนสแด็กปิดที่ 14,935.90 จุด ลดลง 144.96 จุด หรือ 0.96%
ในสัปดาห์แรกของปีใหม่นี้ ดัชนีดาวโจนส์ติดลบ 0.3%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 1.9% และดัชนีแนสแด็ก ปรับตัวลง 4.5% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรายสัปดาห์รุนแรงที่สุด นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2564
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลง หลังรายงานการจ้างงานล่าสุดของสหรัฐ ตอกย้ำความวิตกของนักลงทุนที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อ
นักลงทุนคาดว่า เฟดจะยังคงเดินหน้าแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) แม้กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่น่าผิดหวังในวันศุกร์ (7 ม.ค.) โดยเพิ่มขึ้นเพียง 199,000 ตำแหน่งในเดือนธันวาคม ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 422,000 ตำแหน่ง
อย่างไรก็ตาม รายงานการจ้างงานดังกล่าว บ่งชี้ถึงเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น และภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงานเพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบรายเดือน และพุ่งขึ้น 4.7% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ขณะที่อัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 3.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 4.1%
หุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย และกลุ่มเทคโนโลยีในดัชนีเอสแอนด์พี 500 นำตลาดปรับตัวลง ขณะที่กลุ่มการเงินและกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวขึ้น โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2563
สำหรับการซื้อขายในสัปดาห์หน้านั้น ตลาดอาจจะได้รับผลกระทบ จากการรายงานข้อมูลเงินเฟ้อจากดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิต, ยอดค้าปลีก และข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐ รวมถึงการแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารประจำวุฒิสภาเกี่ยวกับการเสนอชื่อนายพาวเวลให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดเป็นสมัยที่ 2
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- มุมมองการลงทุน วิเคราะห์ ‘หุ้นเด่น ปี 2565’
- ‘เฟด’ ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งปี 65 หยุดทำ ‘คิวอี’ เดือนมี.ค.
- FETCO เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนลดลง 4.2% แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ร้อนแรง