Stock

‘ดาวโจนส์’ ทะยานกว่า 100 จุด หลัง ‘เฟด’ หั่น QE ตามคาด

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศว่าจะเริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 36,157.58 จุด เพิ่มขึ้น 104.95 จุด หรือ 0.29% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,660.57 จุด เพิ่มขึ้น 29.92 จุด หรือ 0.65% และดัชนี แนสแด็กปิดที่ 15,811.58 จุด เพิ่มขึ้น 161.98 จุด หรือ 1.04%

ดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนียังคงปิดทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ หลังจากคณะกรรมการเฟดประกาศแผนการปรับลดวงเงิน QE ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยเฟดมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งมากพอ ที่จะทำให้เฟดตัดสินใจดำเนินการดังกล่าว

Stocksbitcoin ๒๑๐๔๐๕ 1

ทั้งนี้ เฟดประกาศว่าจะปรับลดวงเงินในโครงการ QE เดือนละ 15,000 ล้านดอลลาร์ เริ่มตั้งแต่เดือนนี้ โดยเฟดจะปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเดือนละ 10,000 ล้านดอลลาร์ และปรับลดวงเงินซื้อตราสารหนี้ ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) เดือนละ 5,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งการลดวงเงิน QE ดังกล่าวจะทำให้เฟดยุติการทำ QE โดยสิ้นเชิงในกลางปี 2565

นอกเหนือจากผลการประชุมเฟดที่เป็นไปตามคาดแล้ว ตลาดยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น 571,000 ตำแหน่งในเดือนที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน จากระดับ 523,000 ตำแหน่งในเดือนกันยายน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 395,000 ตำแหน่ง

ขณะที่ไอเอชเอส มาร์กิตเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 58.7 ในเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม จากระดับ 54.9 ในเดือนกันยายน

ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนกันยายน  สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัว หรือเพิ่มขึ้น 0% หลังจากดีดตัวขึ้น 1.0% ในเดือนสิงหาคม

น้ำมัน-ทอง กอดคอร่วง 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนัก เมื่อคืนนี้ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากราคาพุ่งขึ้นก่อนหน้านี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 3.05 ดอลลาร์ หรือ 3.6% ปิดที่ 80.86 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา ส่วน สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 2.73 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 81.99 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม

ทางด้าน ราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดร่วงลงเช่นเดียวกัน เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน ที่พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนตุลาคม

ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะแถลงมติการประชุม

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 25.5 ดอลลาร์ หรือ 1.43% ปิดที่ 1,763.9 ดอลลาร์/ออนซ์

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo