เฟดส่งสัญญาณเดิม ที่จะปรับลดวงเงินคิวอีในปีนี้ แต่ยังไม่ระบุชัดเจนเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ย จากความวิตกกังวลการแพร่ระบาดของโควิด ช่วยหนุนราคาหุ้นและทองคำขยับขึ้น
นักวิเคราะห์กล่าวว่าท่าทีของเฟดต่อภาวะเศรฐกิจสหรัฐ ดูเหมือนว่ายังลังเลการปรับขึ้นดอกเบี้ย แม้จะมีเจ้าหน้าที่สายเหยี่ยวต้องการให้ลดวงเงินคิวอีเร็วขึ้น รวมทั้งปรับขึ้นดอกเบี้ย แต่จากคำกล่าวของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังเสร็จสิ้นการประชุมประจำปี ชี้ให้เห็นว่าเฟดยังมีท่าทีระมัดระวัง
นายพาวเวลกล่าวว่าเฟดมีแนวโน้มที่จะเริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) ก่อนสิ้นปีนี้ แต่การปรับลดวงเงินคิวอีไม่ได้หมายความว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้า
“เฟดมองว่ามีความเหมาะสมที่จะเริ่มการปรับลดคิวอี ในปีนี้ ขณะที่เศรษฐกิจมีความคืบหน้ามากขึ้นจากการรายงานตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่งในเดือนก.ค. และเฟดจะทำการประเมินข้อมูลที่ได้รับอย่างระมัดระวัง รวมทั้งความเสี่ยงที่เกิดขึ้น ซึ่งรวมถึงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา” นายพาวเวลกล่าว
แม้ว่านายพาวเวล ระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐได้มาถึงจุดที่ไม่มีความจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากนโยบายเฟดอีกต่อไป ซึ่งหมายความว่าเฟดมีแนวโน้มปรับลดวงเงินคิวอี ก่อนสิ้นปีนี้ ตราบใดที่เศรษฐกิจยังคงมีการขยายตัว แต่การกำหนดเวลาและอัตราการปรับลดคิวอี ไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณโดยตรงถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ก่อนหน้านี้ นายพาวเวล ระบุว่าหากเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ก็จะเกิดขึ้นหลังสิ้นสุดการปรับลดคิวอี
สำหรับเป้าหมายของเฟดคือการจ้างงานของสหรัฐ ในขณะที่เป้าหมยเงินเฟ้อเคยเป็นเป้าหมายสำคัญ แต่เฟดมองว่าอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นในขณะนี้เกิดจากปัจจัยเพียงชั่วคราว และปัจจัยดังกล่าวกำลังเริ่มที่จะเบาบางลง ซึ่งจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวเข้าสู่เป้าหมายของเฟดในที่สุด แต่เฟดกังวลเรื่องการจ้างงานของสหรัฐ ซึ่งขณะนี้รอดูผลกระทบแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา
นักวิเคราะห์กล่าวว่าจากท่าทีของเฟดในครั้งนี้ช่วยหนุนตลาดหุ้นและทองคำขยับขึ้น เนื่องจากการลดวงเงินคิวอีเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านั้น ซึ่งนักลงทุนมีการปรับพอร์ตการลงทุนไประยะหนึ่งแล้วตั้งแต่เฟดแถลงการประชุมครั้งที่แล้ว
แต่เฟดท่าทีของเฟดในครั้งนี้เปลี่ยนไปจากการตีความขอนักลงทุน จากเดิมที่คาดว่าการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐจะเกิดขึ้นภายหลังจากการลดวงเงินคิวอี แต่ขณะนี้ยังไม่แน่นอน ทำให้ตลาดหุ้นได้แรงหนุนจากสภาพคล่องในตลาด ส่วนราคาทองคำได้แรงหนุนจากแนวโน้มเศรษฐกิจยังขยายตัวตัวได้ในสภาพแวดล้อมดอกเบี้ยต่ำต่อไป จนกว่าจะมีความชัดเจนอีกครั้งจากเฟด
“ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นครั้งนี้ มาจากโควิดรอบใหม่สายพันธุ์เดลตา ทำให้เฟด แม้จะเดินหน้าตามแผน แต่ก็เปิดทางเอาไว้ เพื่อเป็นทางออกในกรณีที่เกิดผลกระทบรุนแรง และฉุดเศรษฐกิจอีกครั้ง ซึ่งเฟดไม่ต้อวการเช่นนี้ เพราะหากเศรษฐกิจดิ่งลงไปอีก ก็จะต้องใช้เงินมากขึ้นไปกว่าเดิมในการกระตุ้น”
อ่านข่าวเพิ่มเติม:
- ‘ดาวโจนส์’ พุ่งกว่า 200 จุด ขานรับ ‘พาวเวล’ ยืนยัน ‘เฟด’ ไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย
- ราคาทองคำ เช้านี้ขึ้น 150 บาท ตลาดต่างประเทศวิ่งทะลุ 1,800 ดอลลาร์
- อัพเดทสถานการณ์โควิด วันที่ 29 สิงหาคม 2564
