ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (26 ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ปรับตัวลดลง ท่ามกลางความกังวลว่า “ธนาคารกลางสหรัฐ” จะปรับลดวงเงินทำ QE เร็วขึ้น ประกอบกับเหตุระเบิด 2 ครั้งซ้อน ใกล้กับสนามบินในกรุงคาบูล อัฟกานิสถาน ที่มีชาวอเมริกันเสียชีวิตด้วย ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของนักลงทุน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 35,362.68 จุด ร่วงลง 42.82 จุด หรือ 0.12% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,486.60 จุด ลดลง 9.59 จุด หรือ 0.21% และดัชนีแนสแด็กที่ 15,021.34 จุด ลบ 20.51 จุด หรือ 0.14%
กระทรวงกลาโหมสหรัฐ แถลงยืนยันว่า เกิดเหตุระเบิด 2 ครั้ง ด้านนอกท่าอากาศยานฮามิด คาร์ไซ ในกรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถานในวันนี้
เหตุระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณประตูทางเข้าสนามบิน สงผลให้ชาวอเมริกัน และพลเรือนจำนวนหนึ่งเสียชีวิต รวมทั้งเกิดเหตุระเบิดที่โรงแรมบารอน ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากประตูทางเข้าสนามบินมากนัก โดยรอยเตอร์ส รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 ศพ ซึ่งรวมถึงเด็กหลายคน จากเหตุระเบิดดังกล่าว และยังมีรายงานว่า นาวิกโยธินสหรัฐ 3 ราย ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้
สื่อรายงานด้วยว่า เหตุระเบิดดังกล่าว เป็นฝีมือของมือระเบิดฆ่าตัวตาย ที่ได้จุดชนวนระเบิดด้านนอกท่าอากาศยานฮามิด คาร์ไซ
เหตุระเบิดข้างต้น ยังเกิดขึ้น หลังจากที่อังกฤษ และสหรัฐ ออกคำเตือนพลเมืองที่ยังคงตกค้างในอัฟกานิสถาน ให้อยู่ห่างจากสนามบินกรุงคาบูล เนื่องจากมีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะถูกกลุ่มผู้ก่อการร้ายโจมตี
นอกจากเหตุระเบิดในอัฟกานิสถานแล้ว ตลาดยังวิตกถึงความเป็นไปได้ที่ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจประกาศปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็คสัน โฮล
ก่อนหน้านี้ นางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟด สาขาแคนซัส ซิตี้ กล่าวว่า เฟดควรเริ่มปรับลดวงเงินในโครงการ QE โดยเร็ว ซึ่งจะดีกว่าที่จะปล่อยให้ล่าช้าออกไป เนื่องจากมีการคาดการณ์กันว่า เศรษฐกิจสหรัฐ และตลาดแรงงานจะยังคงมีการขยายตัวต่อไป
“มุมมองพื้นฐานบ่งชี้ว่า เราจะยังคงเห็นการเติบโตของการจ้างงาน และการขยายตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อที่แข็งแกร่งบ่งชี้ถึงโอกาสที่เฟดจะเริ่มต้นลดวงเงินในการซื้อพันธบัตร”
นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในการประชุมประจำปีของเฟดในวันพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) โดยคาดว่า เฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงิน QE ในการประชุมดังกล่าว
การประชุมปีนี้ จะเป็นการเสวนาผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เป็นปีที่ 2 เพื่อลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งนายพาวเวลจะกล่าวสุนทรพจน์ในประเด็น “แนวโน้มเศรษฐกิจ” โดยเขามีกำหนดกล่าวถ้อยแถลงในวันพรุ่งนี้ เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.00 น.ตามเวลาไทย
นักลงทุนคาดหวังว่า นายพาวเวลจะเปิดเผยโรดแมพที่ชัดเจนมากขึ้น เกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดวงเงิน QE หลังจากที่เฟดได้ส่งสัญญาณ ในรายงานการประชุมประจำเดือนกรกฎาคมว่า กรรมการส่วนใหญ่สนับสนุนให้เฟดเริ่มปรับลดวงเงิน QE ในปีนี้ จากปัจจุบัน ที่เฟดซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE อย่างน้อย 120,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน
อย่างไรก็ดี หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า นักวิเคราะห์หลายรายคาดการณ์ว่า นายพาวเวลจะยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการว่า เฟดพร้อมที่จะเริ่มปรับลดวงเงิน QE ในการประชุมประจำปีของเฟดในครั้งนี้
“เราคาดว่านายพาวเวลรับรู้เป็นอย่างดีทั้งในเรื่องการจ้างงานที่แข็งแกร่งในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และความเสี่ยงช่วงขาลง ที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา สิ่งนี้ทำให้เรายังคงคาดการณ์ว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะส่งสัญญาณเตือน ในเดือนกันยายน จากนั้นในเดือนพฤศจิกายน จึงจะประกาศการปรับลดวงเงิน QE” นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์กล่าว
ทางด้านนายทิม ดอย หัวหน้านักวิเคราะห์จากเอสจีเอช แมคโคร แอดไวเซอร์ส คาดการณ์เช่นกันว่า เฟดอาจจะประกาศปรับลดวงเงิน QE ในเดือนพฤศจิกายน โดยกล่าวว่า ข้อมูลที่ได้รับเมื่อไม่นานมานี้แสดงให้เห็นว่า โพลสำรวจส่วนใหญ่บ่งชี้ว่าเดือนพฤศจิกายน จะเป็นเดือนที่เฟดประกาศลดวงเงิน QE เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตา อาจจะทำให้เฟดยังไม่ตัดสินใจประกาศเรื่องดังกล่าวในเดือนกันยายน
ผู้สันทัดกรณี ให้ความเห็นด้วยว่า เนื่องจากขณะนี้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังอยู่ระหว่างการตัดสินใจว่า จะต่ออายุการดำรงตำแหน่งประธานเฟด ของนายพาวเวล ออกไปอีก 1 ปีหรือไม่ จึงทำให้คาดว่า นายพาวเวลจะไม่นำตำแหน่งของเขามาเสี่ยงกับเรื่องนี้ เนื่องจากหากเขาประกาศปรับลดวงเงิน QE อย่างไม่ระมัดระวัง ก็อาจทำให้ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเกิดความตื่นตระหนก และทรุดตัวลงอย่างหนักได้ ดังที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในปี 2556 ในสมัยของนายเบน เบอร์นันเก้ ซึ่งจะไม่เป็นผลดีต่อตัวเขาเอง
ที่ผ่านมา การประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล ถือเป็นการประชุมที่ได้รับความสนใจอย่างมาก โดยมีผู้ว่าการธนาคารกลาง รัฐมนตรีคลัง นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน จากประเทศต่างๆทั่วโลก เข้าร่วมการประชุม ขณะที่ไฮไลท์จะอยู่ที่การกล่าวปาฐกถาของประธานเฟดในขณะนั้นเพื่อแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับนโยบายการเงินของเฟด และแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
นายพาวเวลได้กล่าวสุนทรพจน์ครั้งสำคัญในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮลเมื่อปีที่แล้ว โดยได้ประกาศการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินครั้งใหญ่ในการกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อ ซึ่งเฟดจะเปิดทางให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้นมากกว่าเดิมเพื่อสนับสนุนตลาดแรงงาน และเศรษฐกิจสหรัฐ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- คิดรีไฟแนนซ์บ้าน เช็คที่นี่ รวมอัตราดอกเบี้ย 8 ธนาคาร 8 ขั้นตอนยื่นขอสินเชื่อ
- เปิดโผหุ้นใหญ่ ‘กำไรโตเกิน 100%’
- วิกฤติยังไม่จบ ตลาดหุ้นแกว่งตัว ลงทุนยังไงดี?