ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (8 มิ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น เคลื่อนไหวในช่วงแคบ ๆ จากการที่ นักลงทุนรอการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ขณะที่ขาขึ้นของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ อย่าง แอปเปิ้ล ช่วยหนุนแนสแด็ก ให้รักษาแดนบวกไว้ได้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 34,634.25 จุด ขยับขึ้นมา 4.01 จุด หรือ 0.01% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,227.29 จุด ปรับขึ้น 0.77 จุด หรือ 0.02% และดัชนีแนสแด็กที่ 13,890.07 จุด บวก 8.34 จุด หรือ 0.06%
กระทรวงแรงงานสหรัฐ มีกำหนดเปิดเผยดัชนี CPI ประจำเดือนพฤษภาคม ในวันพฤหัสบดีนี้ (10 พ.ค.) โดยนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อ จากการใช้จ่ายของผู้บริโภคจะพุ่งขึ้น 4.7% เมื่อเทียบรายปี หลังจากดีดตัวขึ้น 4.2% ในเดือนเมษายน เพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา
นอกจากนี้ ยังคาดว่า CPI พื้นฐาน ไม่นับรวมหมวดอาหาร และพลังงาน จะพุ่งขึ้น 3.4% เมื่อเดือนที่แล้ว เมื่อเทียบรายปี หลังจากดีดตัวขึ้น 3.0% ในเดือนเมษายน
ก่อนหน้านี้ ดัชนี CPI ของสหรัฐดีดตัวขึ้นสูงเกินคาดในเดือนเมษายน และหากดัชนียังคงปรับตัวอย่างร้อนแรงในเดือนพฤษภาคม ก็อาจทำให้เฟดส่งสัญญาณเร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 15-16 มิถุนายนนี้
นักวิเคราะห์ระบุว่า การพุ่งขึ้นของดัชนี CPI ประจำเดือนเมษายน มื่อเทียบรายเดือน มีสาเหตุจากการดีดตัวขึ้นของราคาพลังงาน ส่วนการพุ่งขึ้นของดัชนี CPI เมื่อเทียบรายปี มีสาเหตุจากการเปรียบเทียบกับตัวเลขฐาน ที่ต่ำผิดปกติในเดือนเมษายน 2563 ซึ่งขณะนั้นราคาสินค้าได้ทรุดตัวลง ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
และจากการประกาศมาตรการล็อกดาวน์ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด อันจะทำให้ตัวเลขดัชนี CPI เมื่อเทียบรายปี ถูกบิดเบือนจากความเป็นจริงต่อไปอีกหลายเดือน เนื่องจากมีการเปรียบเทียบกับราคาสินค้าที่ต่ำผิดปกติในปี 2563
วันนี้ ราคาหุ้นของแอปเปิ้ล ทะยานขึ้น 1.9% หลังมีข่าวออกมาว่า บริษัทอยู่ระหว่างการหารือขั้นต้นกับบริษัท CATL และ BYD ของจีน เกี่ยวกับการจัดหาแบตเตอรี สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ที่แอปเปิ้ล มีแผนพัฒนาขึ้นมา
ราคาหุ้นของบริษัท Fastly ซึ่งเป็นผู้ให้บริการคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) ในสหรัฐ ดีดตัวขึ้น 1.5% ในวันนี้ หลังจากดิ่งลง 2.5% ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาด เนื่องจากบริษัทประสบปัญหาขัดข้องทางเทคนิค จนส่งผลกระทบทำให้เว็บไซต์ข่าวทั่วโลกล่มในวันนี้
Fastly เป็นบริษัทที่ให้บริการ CDN (Content Delivery Network) โดยบริษัทมีเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์และศูนย์ข้อมูลทั่วโลก และมีการถ่ายโอนข้อมูลที่มีความจำเป็นสำหรับการโหลดคอนเทนท์เกี่ยวกับหน้าเว็บเพจ HTML, ไฟล์ javascript รวมทั้งการส่งภาพและวิดีโอ
ปัญหาที่เกิดขึ้นกับ Fastly ได้ส่งผลกระทบต่อเว็บไซต์ข่าวหลายแห่งทั่วโลก เช่น CNN, BBC, The Guardian, Bloomberg News, The Financial Times, The New York Times และ Le Monde
ขณะเดียวกัน เว็บไซต์ของรัฐบาลอังกฤษ (gov.uk) และเว็บไซต์ของ Amazon.com ก็ประสบปัญหาเช่นกัน รวมทั้งเว็บไซต์ของ Spotify, Twitch และ Reddit
ล่าสุด Fastly ออกแถลงการณ์ระบุว่า ทางบริษัทสามารถแก้ไขปัญหาขัดข้องทางเทคนิค ที่ทำให้เว็บไซต์ข่าวทั่วโลกล่มในวันนี้ และขณะนี้เครือข่ายข่าวดังกล่าว ได้กลับมาให้บริการอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ ราคาหุ้น Fastly พุ่งขึ้นมากกว่า 300% ในปี 2563 โดยได้รับอานิสงส์จากความต้องการใช้บริการอินเทอร์เน็ตมากขึ้น หลังจากที่รัฐบาลออกมาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากขึ้นต้องทำงาน และเรียนอยู่ที่บ้าน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ก.ล.ต.กล่าวโทษบิ๊ก RICH กับพวก รวม 11 รายต่อ DSI เหตุทุจริตเสียหาย 1.15 พันล้าน
- ลงทุนยังไงดี ในภาวะ ‘Stagflation’ ที่เศรษฐกิจกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
- 10 อันดับหุ้นใหญ่ ‘กำไรสูงสุด’ ไตรมาสแรก ปี 64
