Stock

หุ้นไทย 5 เดือนแรกเพิ่ม 10% ตามการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก

ตลาดหุ้นไทยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวเศรษฐกิจและการค้าโลกชัดเจนมากยิ่งขึ้น อีกทั้งราคาพลังงาน และสินค้าโภคภัณฑ์หลายชนิดในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้นมาก

หุ้นไทย

นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2564 SET Index  ปิดที่ 1,593.59 จุด เพิ่มขึ้น 10.0% จากสิ้นปี 2563  ซึ่งถือเป็นการปรับเพิ่มขึ้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยของดัชนีตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ โดยอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2563  ได้แก่กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง กลุ่มเทคโนโลยี และ กลุ่มธุรกิจการเงิน

ภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทย

  • ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม  2564 SET Index  ปิดที่ 1,593.59  จุด เพิ่มขึ้น 10.0% จากสิ้นปี 2563 ซึ่งถือเป็นการปรับเพิ่มขึ้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยของดัชนีตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ ในขณะที่ SET Index ปรับเพิ่มขึ้น 0.7% เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนก่อนหน้า
  • ในนเดือนพฤษภาคม 2564  หลายอุตสาหกรรมปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2563   ได้แก่ กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง กลุ่มเทคโนโลยี และ กลุ่มธุรกิจการเงิน
  • ในเดือนพฤษภาคม  2564   มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน SET และ mai อยู่ที่ 109,446 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63.8% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยใน 5 เดือนแรกปี 2564 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 98,859 ล้านบาท
  • ผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 โดยในเดือนพฤษภาคม 2564 ผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 34,054

ล้านบาท ทั้งนี้ในช่วง 5 เดือนแรกปี 2564 ผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิรวม  66,870  ล้านบาท โดยผู้ลงทุนในประเทศมีสถานะเป็นผู้ซื้อสุทธิ 101,236  ล้านบาท นอกจากนี้ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 ที่มีการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ผู้ลงทุนในประเทศมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดมาอย่างต่อเนื่อง

  • ในเดือนพฤษภาคม  2564 มีบริษัทเข้าจดทะเบียนซื้อขายใหม่ใน SET 3  บริษัท และใน mai 3  บริษัท โดยใน 5  เดือนแรกปี  2564 SET มีมูลค่าระดมทุน (IPO) สูงที่สุดเมื่อเทียบกับตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ ใน ASEAN โดยสาเหตุหลักมาจากการเข้าจดทะเบียนของบมจ. ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) และ บมจ. เงินติดล้อ (TIDLOR) 
  • Forward และ Historical P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2564 อยู่ที่ระดับ 19.2 เท่า และ 29.65 เท่าตามลำดับ สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 15.0 เท่า และ 26.8 เท่าตามลำดับ
  • อัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2564 อยู่ที่ระดับ 2.42% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 2.25%

ภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า

  • ในเดือนพฤษภาคม 2564 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 597,159 สัญญา เพิ่มขึ้น 26.1% จากเดือนก่อน ส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นจาก SET50 Index Futures และ Single Stock Futures

อ่านข่าวเพิ่มเติม:

Avatar photo