ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทกอดคอกันร่วงหนัก หลังรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐทะยานขึ้นมากกว่าคาด ตลาดประเมินอาจเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ และลดวงเงินคิวอี
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดร่วงหนัก 681.50 จุด เช่นเดียวกับดัชนี S&P500 และ Nasdaq โดยนักลงทุนเทขายทั่วกระดาน จากปัจจัยที่รอมาตั้งแต่ต้นสัปดาห์ นั่นคือ เงินเฟ้อสหรัฐที่ประกาศเมื่อคืนนี้ เพิ่มขึ้นมากกว่าคาดการณ์ไว้
ทันทีที่ประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ เกิดแรงเทขายอย่างหนัก ทั้งสามตลาด โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีปรับลดลงมากที่สุด เนื่องจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีจะสวนทางกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย
- ดาวโจนส์ปิดที่ 33,587.66 จุด ลดลง 681.50 จุด หรือ 1.99%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,063.04 จุด ลดลง 89.06 จุด หรือ 2.14%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,031.68 จุด ลดลง 357.75 จุด หรือ 2.67%
กระทรวงแรงงานสหรัฐ รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเมษายน อยู่ที่ 0.8% สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ทำให้เกิดความวิตกว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่เคยแถลงไว้ และลดวงเงินซื้อพันธบัตร(คิวอี)
ก่อนหน้านี้ ประเด็นดอกเบี้ยได้กดดันตลาดจากคำกล่าวของรมว.คลังสหรัฐ แม้จะออกมาปฏิเสธภายหลัง ทำให้ประเด็นเงินเฟ้อเป็นปัจจัยที่นักลงทุนจับตามองตลอดกว่า 2 สัปดาห์
นักวิเคราะห์กล่าวว่าตัวเลขเงินเฟ้อที่ประกาศออกมา ทำให้นักลงทุนมองข้ามความเห็นของเฟดก่อนหน้านี้ ที่ประเมินว่าเงินเฟ้อจะพุ่งสูงขึ้นชั่วคราวเท่านั้น และเฟดยังคงดอกเบี้ยต่ำไปอีกนาน เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจสหรัฐจากผลกระทบโควิด
เงินเฟ้อขยับขึ้น ยังเป็นปัจจัยฉุดราคาทองคำร่วงกว่า 10 ดอลลาร์/ออนซ์ เพราะตลาดคาดการณ์ทิศทางดอกเบี้ยจะขยับขึ้น ทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ อายุ 10 ปีขยับขึ้น
ทองคำในตลาดล่วงหน้า(COMEX) ลดลง 13.3 ดอลลาร์ หรือ 0.72% ปิดที่ 1,822.8 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่ตลาดสปอตในเอเชียเช้านี้ ร่วงลงไปอยู่ที่ระดับ 1,814 ดอลลาร์/ออนซ์
เทรดเดอร์กล่าวว่าทองคำมีแนวโน้มขาลง จากปัจจัยทิศทางดอกเบี้ย เมื่อหลุดแนวรับที่ 1,816 ดอลลาร์ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1,802 ดอลลาร์ฺ/ออนซ์
ด้านราคาน้ำมัน ปิดขยับขึ้นเล็กน้อย จากแนวโน้มความต้องการจะขยับขึ้น จากการคาดการณ์เปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจจะหนุนความต้องการใช้น้ำมันในหลายประเทศ
- น้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 66.08 ดอลลาร์/บาร์เรล แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค. 2564
- น้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) เพิ่มขึ้น 77 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 69.32 ดอลลาร์/บาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค. 2564
อ่านข่าวเพิ่มเติม:
- ‘ดาวโจนส์’ ดิ่งไม่หยุด หลุดเส้น 34,000 จุด วิตกเฟดเข้มนโยบายการเงิน เหตุเงินเฟ้อแกร่ง
- มาแล้วตัวเลขป่วนหุ้นทั่วโลก! เงินเฟ้อสหรัฐพุ่ง 0.8% มากกว่าคาดการณ์
- ราคาทองคำเช้านี้ ไม่เปลี่ยนแปลง แม้ตลาดโลกลดลง แต่ค่าบาทอ่อน
