“ธนพิริยะ” โชว์รายได้ปี 2566 โตขึ้น 7.40% ทำรายได้ 2,613 ล้านบาท จ่ายปันผล 0.045 บาท/หุ้น กำหนดจ่าย 24 พฤษภาคมนี้พร้อมลุยขยายสาขา ปั๊มรายได้ปี 2567 เติบโต 10-15 %
เภสัชกรหญิงอมร พุฒิพิริยะ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ในจังหวัดเชียงราย เผยผลการดำเนินงานในปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายจำนวน 2,613.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 180.01 ล้านบาท หรือ 7.40% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ เป็นผลมาจากปัจจัยบวกจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายการเปิดสาขาใหม่ จำนวน 4 สาขา สนับสนุนให้ ณ สิ้นปี 2566 บริษัทมีทั้งสิ้น 45 สาขา โดยเป็นกลยุทธ์หลักที่บริษัทเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ในการขยายสาขาเพื่อให้ครอบคลุมในพื้นที่ชุมชน สร้างการเข้าถึงของผู้บริโภค อีกทั้งการมองหาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ ด้วยราคาที่เป็นมิตรเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้น อยู่ที่ 439.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.53 ล้านบาท คิดเป็น 5.40% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 16.83% ซึ่งการเพิ่มขึ้นเกิดจากภาพรวมยอดขายของบริษัทเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าต้นทุนในการจัดจำหน่ายและค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น เนื่องจากสาขาที่เพิ่มขึ้น แต่บริษัทฯ ก็สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ สนับสนุนให้มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 155.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.51 ล้านบาท คิดเป็น 4.37% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมีอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 5.91%
สำหรับในปี 2567 TNP มีแผนขยายเพิ่มอีก 6 สาขา สนับสนุนให้ TNP มีสาขาทั้งสิ้น 51 สาขา สร้างการรับรู้รายได้เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบัน ธนพิริยะ มีสาขาที่ครอบคลุมโซนภาคเหนือตอนบนแบ่งเป็น จ.เชียงราย 35 สาขา จ.เชียงใหม่ 4 สาขา และ จ.พะเยา 6 สาขา และสาขาล่าสุด คือสาขาที่ 45 สาขาเวียงป่าเป้า 2 ที่ได้เปิดให้บริการเรียบร้อยแล้ว
อีกทั้งในไตรมาส 1 ปี 2567 ได้มีนโยบายจากทางภาครัฐ Easy e-receipt มาตรการลดหย่อนภาษีประจำปี 2567 ที่กรมสรรพากรกำหนดให้บุคคลธรรมดาสามารถนำใบกำกับภาษีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-receipt/E-tax invoice) ของการซื้อสินค้า และบริการจากร้านค้าที่จดทะเบียนในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อใช้ลดหย่อนภาษีใน ปี 2567 ได้สูงสุด 5 หมื่นบาท ในการซื้อสินค้าระหว่างวันที่ 1 มกราคม จนถึง 15 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่ง ธนพิริยะ ได้เปิดให้บริการเพื่อรองรับมาตรการดังกล่าวทุกสาขา
เภสัชกรหญิงอมร กล่าวเสริมอีกว่า ปี 2567 นี้ ทิศทางอุตสาหกรรมเริ่มฟื้นตัว การท่องเที่ยวคึกคัก เศรษฐกิจเดินหน้า ผู้บริโภคมีกำลังซื้อต่อบิลที่มากขึ้น อีกทั้งนโยบายของภาครัฐที่เข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจ
ขณะที่กลยุทธ์การขยายสาขาช่วยสร้างการเข้าถึงสินค้าอุปโภคบริโภคของลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น โดยบริษัทฯ โฟกัสในทำเลศักยภาพโซนภาคเหนือตอนบน ซึ่งเราได้ศึกษาและประเมินความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้ตั้งเป้ารายได้เติบโตอยู่ที่ 10-15%”
จากผลประกอบการดังกล่าว บริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายปันผลจากผลประกอบการประจำปี 2566 ให้แก่ผู้ถือหุ้นจำนวน 800 ล้านหุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.085 บาท เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 68 ล้านบาท ซึ่งเมื่อหักเงินปันผลระหว่างกาลที่ได้จ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นแล้วในอัตราหุ้นละ 0.04 บาท
ดังนั้น จึงคงเหลือเงินปันผลที่จะจ่ายจากผลดำเนินงานงวด 1 กรกฎาคม-31 ธันวาคม 2566 อีกในอัตราหุ้นละ 0.045 บาท รวมเป็นเงิน 36 ล้านบาท โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 24 พฤษภาคม 2567 ซึ่งต้องรออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 25 เมษายน 2567 นี้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สมรภูมิโชห่วยเดือด! ทุนใหญ่พร้อมใจรุกตลาด
- ดัชนีความเชื่อมั่นอุตฯ เดือน ม.ค. ขยับขึ้น รับอานิสงส์ Easy E-receipt ช่วยหนุน
- ส่อง Top 5 สินค้ายอดพุ่งช่วงช้อปลดหย่อนภาษี ‘Easy E-Receipt’
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg