ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (15 ก.พ.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” พุ่งขึ้นกว่า 300 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ทำนิวไฮ หลังยอดค้าปลีกลดลงมากกว่าคาด ทำให้ตลาดมีความหวังว่า “ธนาคารกลางสหรัฐ” อาจเริ่มลดดอกเบี้ยในไม่ช้านี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,773.12 จุด เพิ่มขึ้น 348.85 จุด หรือ +0.91% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 5,029.73 จุด เพิ่มขึ้น 29.11 จุด หรือ +0.58% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 15,906.17 จุด เพิ่มขึ้น 47.03 จุด หรือ +0.30%
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า เมื่อเทียบรายเดือน ยอดค้าปลีกลดลง 0.8% ในเดือนมกราคม และเพิ่มขึ้นเพียง 0.65% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งหากไม่รวมยอดขายรถยนต์ ยอดค้าปลีกจะลดลง 0.6%
นักวิเคราะห์ระบุว่า ยอดค้าปลีกที่ลดลงมากกว่า คาดอาจสะท้อนให้เห็นถึงภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงเล็กน้อย แต่ในข่าวร้ายนี้ก็มีข่าวดีอยู่ด้วย เพราะหมายถึง ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มมากขึ้น ที่จะลดดอกเบี้ย
ตลาดยังได้แรงหนุนจากถ้อยแถลงของนายออสแทน กูลส์บี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก ซึ่งระบุว่า เป้าหมายของเฟดในการทำให้เงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมาย 2% ยังคงมีความเป็นไปได้ แม้ว่าเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสูงกว่าคาดในช่วงหลายเดือนข้างหน้า และเขาไม่สนับสนุนให้เฟดรอจนกระทั่งตัวเลขเงินเฟ้อแตะระดับ 2% จึงจะเริ่มปรับลดดอกเบี้ย
“ต่อให้เงินเฟ้อดีดตัวสูงขึ้นอีกเป็นเวลาหลายเดือน สิ่งนี้ก็จะยังคงสอดคล้องกับแนวทางของเราในการทำให้เงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมาย และผมไม่สนับสนุนให้เฟดรอจนกระทั่งตัวเลขเงินเฟ้อเมื่อเทียบรายปีแตะ 2% จึงจะเริ่มทำการปรับลดดอกเบี้ย”
เขาบอกด้วยว่า ทิศทางในระยะยาวของเงินเฟ้อ และแนวโน้มในวงกว้างมีความสำคัญมากกว่าตัวเลขเงินเฟ้อเพียงเดือนเดียว
“ขอให้เราอย่าวิตกจนเกินเหตุเมื่อเห็นเงินเฟ้อเพียงเดือนเดียวสูงกว่าที่คาดไว้ ซึ่งมันปรากฎชัดแล้วว่าเงินเฟ้อกำลังชะลอตัวลง”
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 40% ต่อการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพฤษภาคม ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากช่วงก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีก
หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค กลุ่มวัสดุ และกลุ่มพลังงาน ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ขณะที่ดัชนี Russell 2000 Index ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นกลุ่มบริษัทที่มีทุนจดทะเบียนต่ำ พุ่งขึ้น 2.3%
นักลงทุนมีมุมมองเป็นบวกมากขึ้นต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยข้อมูลจากแอลเอสอีจี (LSEG) ระบุว่าบริษัทในเอสแอนด์พี 500 ที่ได้รายงานผลประกอบการไปแล้วนั้น มี 80.3% ที่รายงานผลประกอบการสูงกว่าคาด ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยรายปีที่ระดับ 76%
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘เจอโรม พาวเวล’ ย้ำ ‘เฟด’ ระมัดระวัง ‘ลดดอกเบี้ย’ ปี 67
- ‘แบงก์ชาติสหรัฐ’ คงดอกเบี้ยตามคาด แต่ส่งสัญญาณชัดเจน ไม่มีแผน ‘ลดดอกเบี้ย’
- คาด ‘ธนาคารกลางยุโรป’ หั่นดอกเบี้ย 4 ครั้ง ปี 67 เหตุเงินเฟ้อลดเร็วกว่าคาด
ติดตามเราได้ที่
เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg