Stock

‘ดาวโจนส์’ ปิดตลาดพุ่ง 369.54 จุด ทำนิวไฮรอบใหม่

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (1 ก.พ.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ฟื้นตัวแรง พุ่งขึ้น 369.54 จุด แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ ขณะนักลงทุนรอดูรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ รวมถึง ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,519.84 จุด เพิ่มขึ้น 369.54 จุด หรือ +0.97% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,906.19 จุด เพิ่มขึ้น 60.54 จุด หรือ +1.25% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 15,361.64 จุด เพิ่มขึ้น 197.63 จุด หรือ +1.30%

ดาวโจนส์

นักวิเคราะห์ระบุว่า ตลาดกำลังซึมซับผลการประชุมเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบาย ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ครั้งล่าสุดและเข้าช้อนซื้อหุ้น ที่ราคาร่วงลงอย่างมากเมื่อวันพุธ (31 ม.ค.) ช่วยหนุนให้ดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งยังได้ปัจจัยบวกจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีที่ร่วงลงสู่ระดับต่ำกว่า 4%

หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดในแดนบวก นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยพุ่งขึ้น 1.98% และดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคพุ่งขึ้น 1.97%

อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารภูมิภาค (KBW Regional Bank Index) ดิ่งลง 2.3% โดยถูกกดดันจากราคาหุ้นธนาคารนิวยอร์ก คอมมูนิตี้ แบงคอร์ป ที่ร่วงลง 11% หลังเปิดเผยตัวเลขขาดทุนในไตรมาส 4/2566 และประกาศลดการจ่ายเงินปันผล ส่งผลให้ตลาดเริ่มกลับมาวิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพด้านการเงินของธนาคารระดับภูมิภาคในสหรัฐอีกครั้ง

ข้อมูลจากแอลเอสอีจี (LSEG) ระบุว่า ขณะนี้มีบริษัท 208 แห่งในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ได้รายงานผลประกอบการแล้ว โดยในจำนวนนี้มี 80% ที่รายงานผลประกอบการสูงกว่าคาด

ดาวโจนส์

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ รวมถึง กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 9,000 ราย สู่ระดับ 224,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 213,000 ราย

สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 49.1 ในเดือนมกราคม จากระดับ 47.1 ในเดือนธันวาคม สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 47.2 แต่ดัชนีอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตสหรัฐอยู่ในภาวะหดตัว และเป็นการหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 15

นักลงทุน ยังจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้ (2 ก.พ.) ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่เฟดใช้พิจารณานโยบายอัตราดอกเบี้ย โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้น 173,000 ตำแหน่งในเดือนมกราคม ลดลงจากระดับ 216,000 ตำแหน่งในเดือนธันวาคม และุคาดว่าอัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.8% ในเดือนมกราคม จากระดับ 3.7% ในเดือนธันวาคม

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg

Avatar photo