ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (18 ธ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” แทบไม่ขยับ แม้จะยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ จะเริ่มลดดอกเบี้ยในปีหน้า ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 37,306.02 จุด เพิ่มขึ้น 0.86 จุด หรือ +0.002% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,740.56 จุด เพิ่มขึ้น 21.37 จุด หรือ +0.45% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 14,904.81 จุด เพิ่มขึ้น 90.89 จุด หรือ +0.61%
นักวิเคราะห์ ระบุว่า ตลาดยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางของการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มลดดอกเบี้ยในปีหน้า ข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยในช่วงที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขเงินเฟ้อ การใช้จ่ายของผู้บริโภค และตลาดแรงงาน ต่างก็ไม่ได้ย่ำแย่เกินไปหรือร้อนแรงมากเกินไป ซึ่งเศรษฐกิจที่อยู่ในภาวะเหมาะสมเช่นนี้ยังคงเป็นปัจจัยหนุนการคาดการณ์ดังกล่าว
แม้เจ้าหน้าที่เฟดหลายราย ซึ่งรวมถึงนายออสแทน กูลส์บี ประธานเฟดสาขาชิคาโก และนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก ได้ออกมาแสดงความเห็นเชิงลบเกี่ยวกับแนวโน้มการลดดอกเบี้ย แต่นักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมีนาคม 2567
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 63.4% คาดการณ์ว่า เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนมีนาคม 2567
ในบรรดาหุ้น 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนีเอสแอนด์พี 500 นั้น หุ้นกลุ่มบริการด้านการสื่อสารพุ่งขึ้นแข็งแกร่งที่สุด ซึ่งรวมถึงหุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ พุ่งขึ้น 2.9% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 3% หุ้นสปอติฟาย บวก 0.4% หุ้นอัลฟาเบท พุ่งขึ้น 2.4%
หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมัน WTI พุ่งขึ้นเหนือระดับ 72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนก่อเหตุโจมตีเรือสินค้าหลายลำในทะเลแดง ซึ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันในตลาด
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นปรับหลักเกณฑ์ออก Baht Bond
- จับตา! ‘บิตคอยน์’ จ่อทะลุ 1 แสนดอลล์ปี 67 อานิสงส์เฟดลดดอกเบี้ย-สหรัฐไฟเขียวขาย ETF
- ‘มูดี้ส์’ ลดความน่าเชื่อถือสหรัฐ สู่ ‘เชิงลบ’ ยังตรึงเครดิตที่ Aaa