ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (18 ธ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ปรับขึ้น 50.59 จุด ต่อเนื่องจากที่ตลาดปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 7 สัปดาห์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 37,355.75 จุด เพิ่มขึ้น 50.59 จุด หรือ 0.14% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,736.63 จุด ปรับขึ้น 17.44 จุด หรือ 0.37% และดัชนีแนสแด็กที่ 14,851.70 จุด บวก 37.78 จุด หรือ 0.26%
หุ้นพลังงานพุ่งขึ้นนำตลาด แรงหนุนจากการทะยานขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลก ขณะที่บริษัทเดินเรือรายใหญ่ประกาศระงับการใช้เส้นทางในทะเลแดง ท่ามกลางภัยคุกคามจากการโจมตีของกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน ซึ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันในตลาด
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2566 ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่คึกคัก ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงวันหยุดในเทศกาลคริสต์มาสในสัปดาห์หน้า
นักลงทุนจับตาปรากฎการณ์ “ซานต้า แรลลี่” ในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปีนี้ ซึ่งมักเกิดขึ้นเป็นเวลา 7 วันทำการ โดยมีขึ้นในช่วง 5 วันทำการสุดท้ายของปีปัจจุบัน รวมทั้ง 2 วันแรกของปีใหม่
นับตั้งแต่ปี 2493 เป็นต้นมา ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวลงในเดือนธันวาคมเพียง 18 ครั้งเท่านั้น
ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์พุ่งทำสถิติสูงสุดตลอดกาลในการซื้อขายระหว่างวันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (15 ธ.ค.) ขณะที่ดัชนีแนสแด็กทำสถิติปิดตลาดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขานรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณยุติวัฏจักรขึ้นดอกเบี้ย และจะเริ่มลดดอกเบี้ยในปีหน้า
นอกจากนี้ ดัชนีดาวโจนส์ เอสแอนด์พี 500 และแนสแด็กปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 7 สัปดาห์ ขณะที่พุ่งขึ้น 3.8% 3.3% และ 4.1% ตามลำดับในเดือนนี้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นปรับหลักเกณฑ์ออก Baht Bond
- จับตา! ‘บิตคอยน์’ จ่อทะลุ 1 แสนดอลล์ปี 67 อานิสงส์เฟดลดดอกเบี้ย-สหรัฐไฟเขียวขาย ETF
- ‘มูดี้ส์’ ลดความน่าเชื่อถือสหรัฐ สู่ ‘เชิงลบ’ ยังตรึงเครดิตที่ Aaa